ผู้บริหารบริษัทเอกชนและบริษัทผู้ผลิตรถของญี่ปุ่นต่างหวังว่า การยื่นล้มละลายของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และการใช้มาตรการของรัฐบาลสหรัฐจะช่วยให้บริษัทรถยนต์รายใหญ่ของประเทศที่กำลังมีปัญหาอย่างหนัก สามารถกลับมาผงาดในเวทียานยนต์โลกได้อีกโดยไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก
โตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งมีบริษัทร่วมทุนกับจีเอ็มในแคลิฟอร์เนีย ออกแถลงการณ์ว่า บริษัทหวังว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับธุรกิจของจีเอ็ม และทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมอยู่ในภาวะที่เหมาะสมต่อการแข่งขัน
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่าจะเข้าครอบครองกิจการของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศ ตามแผนการยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลายตามมาตร 11 ที่ได้มีการยื่นในวันที่ 1 มิ.ย. หรือคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย นับเป็นการล้มละลายของบริษัทเอกชนนอกภาคธุรกิจการเงินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของโตโยต้ากล่าวก่อนหน้านี้ว่า การร่วมทุนต่อไปจัดเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่ว่าจีเอ็มจะเลือกดำเนินการเช่นไร ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวชี้ว่า โตโยต้า อาจจะแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมเพื่อให้การสนับสนุนแก่จีเอ็ม
ทางด้านนายฟูจิโร่ มิตาราอิ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น กล่าวว่า การเข้าไปครอบครองกิจการของจีเอ็มโดยรัฐบาลนั้น จะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆและเป็นการใช้มาตรการพิเศษ อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในการลดผลกระทบครั้งมโหฬารที่มีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ
"ผมหวังว่า การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้จีเอ็มกลับมาเริ่มต้นได้ใหม่อีกครั้งในฐานะบริษัทที่มีพลังมากขึ้น" นายมิตาราอิกล่าว
ประธานสมาพันธ์ฯ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยนั้น จะนำไปสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงเพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป