บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ได้ยื่นขอพิทักษ์จากการล้มละลายต่อศาลล้มละลายแล้วในวันที่ 1 มิ.ย. พร้อมกับเผยแผนจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเพื่อกลับมารุกธุรกิจยานยนต์ในตลาดโลกอีกครั้ง ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ กล่าวว่า GM และไครสเลอร์จะสามารถกลับมาผงาดได้อีกครั้ง
รัฐบาลสหรัฐจะเป็นผู้จัดเตรียมเงินทุนสำหรับการปรับเปลี่ยนบริษัทที่มีอายุยืนยาวถึง 100 ปีแห่งนี้ หลังจากที่ต้องตกเป็นเหยื่อของยอดขายที่ทรุดฮวบลงและราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้น สหรัฐวางแผนปรับเปลี่ยนเงินกู้ 5 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นหุ้นสัดส่วน 60%
กระทรวงการคลังสหรัฐจะจัดหางบประมาณ 3.01 หมื่นล้านดอลลาร์มาลงทุนใน GM เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท ในช่วงที่บริษัทอยู่ในระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการล้มละลายตามมาตรา 11 จากเดิมที่รัฐบาลเคยให้ไปแล้ว 2 หมื่นล้านดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า สตีเฟน โพพ หัวหน้านักวิเคราะห์ประจำแคนเทอร์ ฟิทซ์เจอราลด์ กล่าวว่า การยื่นล้มละลายของ GM เปรียบเสมือนกับการกลืนยาขม และคล้ายกับตอนที่เรือไททานิคกำลังจมลง การยื่นล้มละลายนี้เป็นขั้นตอนที่บริษัทควรจะทำเมื่อปีกว่ามาแล้ว และอาจจะทำให้บริษัทอยู่สถานภาพที่ดีกว่านี้ในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย
GM เป็นบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่สุดในสหรัฐที่ยื่นขอล้มละลาย โดยบริษัทจะเปิดตัวบริษัท GM ใหม่ภายในระยะเวลา 60 - 90 วัน ที่จะมุ่งเน้นการทำตลาดรถแบรนด์หลักๆอย่าง คาดิลแลค เชฟโรเล็ต บูอิค และจีเอ็มซี ในตลาดรถสหรัฐ
ทั้งนี้ การยื่นล้มละลายต่อศาลล้มละลายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ตรงกับขีดเส้นตายที่รัฐบาลสหรัฐได้กำหนดไว้ให้จีเอ็มเสนอแผนโครงสร้าง การลดต้นทุน และการลดหนี้สินลง โดยศาลล้มละลายจะทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำเรื่องการขายหรือยุบแบรนด์รถของบริษัทที่ไม่สามารถทำกำไรได้แล้วอย่าง แซทเทิร์นและฮัมเมอร์ รวมทั้งโรงงานอีกอย่างน้อย 11 แห่ง