นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เข้าชี้แจงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เป็นเวลา 10 ปี ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)เกี่ยวกับมูลค่าโครงการที่ได้ปรับลดจาก 69,788 ล้านบาท จนล่าสุดเหลือ 64,853.20 ล้านบาท พร้อมทั้งเสนอรายละเอียดโครงการเพื่อเตรียมให้ครม.พิจารณาอนุมัติแล้ว ส่วนจะถูกบรรจุเป็นวาระในการประชุมครม.วันพรุ่งนี้หรือไม่จะหารือกับนายกรัฐมนตรีก่อน
สำหรับมูลค่าโครงการที่ปรับลดลงเป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามข้อเสนอของสำนักงบประมาณและสำนักบริหารหนี้สาธารณะ ที่เสนอว่าไม่ควรนำค่าความเสี่ยงในอัตรา 3% มารวมกับอัตราดอกเบี้ย MLR จึงทำให้อัตราดอกเบี้ยลดเหลือ 6.725% จากเดิมที่ใช้อัตรา MLR+3 หรือคิดเป็น 9% โดยกระทรวงพร้อมนำข้อเสนอแนะจากกระทรวงการคลังในฐานะผู้จัดหาแหล่งเงิน และเป็นการปรับลดตามข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอัตราค่าซ่อมบำรุงนั้น ถือเป็นประเด็นทางเทคนิค ไม่สามารถปรับลดได้ แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตว่าค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสูงกว่าค่าใช้จ่ายของตัวรถโดยสารก็ตาม
"อัตราค่าซ่อมบำรุงไม่สามารถปรับลดตามกระแสได้ เพราะไม่ได้แต่งตัวเลขแต่เป็นข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ผมเสียดายที่โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นประเด็นทางการเมือง ถ้าครม.อนุมัติโครงการคนส่วนหนึ่งอาจมองว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณพรรคภูมิใจไทย แต่ผมไม่แคร์ว่าโครงการจะผ่านเพราะอะไร เพราะยืนยันมาตลอดว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง และมั่นใจว่าจะอธิบายให้ครม.เข้าใจได้ "นายโสภณ กล่าว
ทั้งนี้ การใช้อัตราดอกเบี้ยตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ส่งผลให้มูลค่าโครงการลดเหลือ 64,853.20 ล้านบาท จากเดิมที่ใช้อัตราดอกเบี้ย 9% ซึ่งคิดเป็นมูลค่าโครงการ 67,992.20 ล้านบาท ขณะที่อัตราค่าเช่ารถ จะลดเหลือ 1,885 บาท/คัน/วัน จากเดิม 2,082 บาท/คัน/วัน ส่วนอัตราค่าซ่อมบำรุงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 2,250 บาท/คัน/วัน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายรวมลดลงเหลือ 4,442 บาท/คัน/วัน จากเดิม 4,657 บาท/คัน/วัน
รมว.คมนาคม กล่าวยืนยันว่า โครงการดังกล่าวจะไม่ทำให้ ขสมก.ประสบปัญหาขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และยังทำให้ขสมก. มีรถโดยสารใหม่ให้บริการในราคาถูก ช่วยลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะด้านบุคลากร จะลดเหลือ 150 บาท/คัน/วัน จากเดิม 1,300 บาท/คัน/วัน ขณะที่เส้นทางเดินรถจะครอบคลุมการเดินทางของประชาชนทั้ง 145 เส้นทาง ซึ่งจะช่วยจูงใจให้คนจอดรถส่วนตัว และหันมาใช้บริการขสมก.มากขึ้น