ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร-เยน หลังข้อมูลศก.สดใสฉุดดีมานด์ดอลล์อ่อนลง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday June 3, 2009 07:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) เนื่องจากยอดการทำสัญญาซื้อบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐทำให้นักลงทุนเริ่มมีมุมมองในด้านบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐและลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากที่แห่ซื้อดอลลาร์อย่างคับคั่งเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจผันผวน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 1.05% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 95.550 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 96.560 เยน/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.84% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0608 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0698 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.06% แตะที่ 1.4314 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4164 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.88% แตะที่ 1.6587 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6443 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.33% แตะที่ 0.8208 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8100 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.28% แตะระดับ 0.6573 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6490 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.7% แตะระดับ 90.3 จุด จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 84.6 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นรายเดือนมากที่สุดในรอบ 7 ปีครึ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพและภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐเริ่มบรรเทาลง

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งต้องการจ่ายเงินคืนรัฐบาลสหรัฐรวม 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนนี้ ตัดสินใจระดมทุน 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (1.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ด้วยการขายหุ้นในอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC)

ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ เตรียมระดมทุน 2.2 พันล้านดอลลาร์ด้วยการขายหุ้นสามัญ ส่วนเจพีมอร์แกนเตรียมขายหุ้นสามัญมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ และอเมริกัน เอ็กซ์เพรส เตรียมระดมทุนด้วยการขายหุ้น 500 ล้านดอลลาร์

สำนักงานสถิติสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท รายงานว่า อัตราว่างงานในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 16 ประเทศ ทะยานขึ้นแตะระดับ 9.2% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 8.9% ในเดือนมีนาคม ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2542 โดยเฉพาะสเปนซึ่งมีอัตราว่างงานสูงถึง 18.1% เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกได้บีบให้บริษัทต่างๆจำเป็นต้องปรับลดพนักงานและค่าใช้จ่าย

ขณะที่อัตราว่างงานในกลุ่มอียูซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ประเทศ พุ่งขึ้นแตะ 8.6% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 8.4% ในเดือนมี.ค. โดยมีประชากรตกงานราว 20.8 ล้านคนในกลุ่มประเทศอียู ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.65 ล้านคนจากช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการลงทุน และฉุดให้เศรษฐกิจยุโรปหดตัวรุนแรงสุดในรอบอย่างน้อย 13 ปี โดยแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม กรุ๊ป ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่สุดของยุโรป ประกาศเลย์ออฟพนักงานเพิ่มอีกเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทรายงานผลประกอบการขาดทุนเป็นครั้งแรกนับแต่ปีพ.ศ. 2539

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสกุลเงินยูโรมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 140 เยนเมื่อพิจารณาจากปัจจัยทางเทคนิค และการที่เงินยูโรทะยานขึ้นสูงสุดถึง 2 เท่าอาจทำให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยุติการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งนักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า อีซีบีจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับ 1% ในการประชุมวันที่ 4 มิ.ย.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ