สหรัฐเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านเดือนเม.ย.พุ่งเกินคาด 6.7% สะท้อนตลาดอสังหาฯเริ่มมีเสถียรภาพ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday June 3, 2009 08:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.7% แตะระดับ 90.3 จุด จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 84.6 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นรายเดือนมากที่สุดในรอบ 7 ปีครึ่ง

ลอว์เรนซ์ หยุน นักวิเคราะห์ของ NAR กล่าวว่า ยอดการทำสัญญาซื้อบ้านที่พุ่งขึ้นเหนือความคาดหมายในเดือนเม.ย.สะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพและจะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้ อีกทั้งคาดการณ์ยอดขายบ้านมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในฤดูร้อนนี้เนื่องจากราคาบ้านที่ปรับตัวลดลงได้กระตุ้นประชาชนให้เข้าซื้อมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม NAR กังวลว่าตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจขัดขวางกำลังซื้อของชาวอเมริกัน โดยอัตราว่างงานเดือนเม.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 8.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2526 ส่วนอัตราว่างงานเดือนพ.ค.นั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.2% ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 9% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 25 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจที่หดตัวลงทำให้แทบทุกภาคส่วนในสหรัฐลดการจ้างงาน

ไมเคิล เกรกอรี นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets กล่าวว่า บริษัทเอกชนยังคงเลย์ออฟพนักงานและลดการใช้จ่ายเพื่อให้บริษัทยังสามารถทำกำไรได้ต่อไปหรือเพียงประคองตัวให้รอดพ้นจากการล้มละลาย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังไม่ฟื้นตัวในเร็วๆนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นอีก สำนักข่าวเอพีรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ