"โฆสิต" เตือนธุรกิจ SMEs อย่าก่อหนี้จนกลายเป็นภาระหนักในอนาคต

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 3, 2009 13:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "บทบาทสถาบันการเงินกับวิกฤติเอสเอ็มอี" ว่า จากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลก ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างทั่วถึง ตั้งแต่ภาคธุรกิจขนาดใหญ่ อย่าง กลุ่มบริษัทจีเอ็ม มอเตอร์ (GM) ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ หรือสถาบันการเงินชั้นนำของโลก ดังนั้น ในส่วนของธุรกิจเอสเอ็มอี ย่อมได้รับผลกระทบตามความรุนแรงของเศรษฐกิจโลกเช่นกัน ทั้งนี้ พบว่าภาคธุรกิจเอสเอ็มอีบางกลุ่มไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น คือกลุ่มที่มีฐานะการเงินที่เข้มแข็งอยู่แล้วและมีหนี้สินไม่มาก และ กลุ่มที่มีฐานลูกค้าชัดเจนและยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า รวมทั้ง กลุ่มเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังสามารถจัดการปรับตัวได้ เนื่องจากสามารถหารายได้เสริมอื่น ๆมาชดเชย หรือทดแทนรายได้เดิม

อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี 2 ประเภทที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจและไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาจากการมีสต๊อกสินค้ามากและกลุ่มที่มีสภาพคล่องไม่เพียงพอ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สถาบันการเงินต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาโดยเร็ว โดยเน้นเข้าไปดูแลเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ การปรับแผนธุรกิจ โดยต้องระมัดระวังในเรื่องของการมีระดับหนี้สินให้อยู่ในระดับเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้สินเกินตัวในอนาคต

"วิกฤติปีนี้ไม่เหมือนปี 40 ดังนั้น จึงเป็นวิกฤติที่ต้องขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกันของลูกค้า กับสถาบันการเงิน เพื่อให้พ้นกรอบของวิกฤติการค้าโลกได้...เราต้องเข้าไปช่วยดูในสถานการณ์ข้างหน้า ให้ระดับหนี้สินอยู่ในระดับพอเพียง การยืดหยุ่น คือการผ่อนคลาย ร่วมมือปรับแผนธุรกิจ รักษาระดับสัดส่วนหนี้ให้ระยะหนึ่ง" นายโฆสิต กล่าว

ทั้งนี้ ประธานกรรมการบริหาร BBL กล่าวว่า สถาบันการเงินต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยลูกค้า ให้ผ่านพ้นวิกฤติที่เกิดขึ้นให้ได้ นอกจากนี้ต้องระมัดระวังไม่ให้สัดส่วนสินเชื่อ กลายเป็นภาระในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ