นายฮิเดโตชิ คาเมซากิ คณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เตือนว่า การออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมาก เพื่อนำเงินมาอุดหนุนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้น อาจจะทำให้มีการขึ้นดอกเบี้ยในระยะยาวก็เป็นได้ พร้อมกับชี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นหลุดพ้นจากก้นเหวไปแล้ว และคงจะฟื้นตัวขึ้นในระดับปานกลางในเร็วๆนี้ เนื่องจากการผลิตที่ชะลอตัวลง และรัฐบาลนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาใช้ แต่แนวโน้มเศรษฐกิจในวันข้างหน้าก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่อีกมาก
บอร์ดแบงค์ชาติญี่ปุ่น กล่าวต่อไปว่า ผลพวงจากการใช้นโยบายการเงินและการคลังยังคงไม่แน่นอน และเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือ การออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมหาศาลอาจจะสร้างแรงกดดันต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น และอยู่ในระดับสูงสุดระดับใหม่ในรอบ 7 เดือนในช่วงการซื้อขายระหว่างวันเช้านี้ที่ 1.545%
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในระยะยาวมีผลกระทบต่องบประมาณของรัฐบาล เนื่องจากต้นทุนในการให้บริการตราสารหนี้ของรัฐบาลจะสูงขึ้น และอาจจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการจำนองมากขึ้น รวมทั้งดอกเบี้ยกู้ยืมอื่นๆ
นอกจากนี้ บอร์ดบีโอเจยังได้เตือนให้ระวังเรื่องแนวโน้มของเงินเฟ้อ หากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวขึ้นตามคาดการณ์ และดีมานด์ไม่กระเตื้องขึ้น สถานการณ์เช่นนี้ก็อาจจะนำไปสู่ภาวะเงินฝืดในที่สุด ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก
ดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นในเดือนเม.ย.ร่วง 0.1% จากระดับปีที่แล้ว และยังตกลงติดต่อกันมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว