นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าทุกฝ่ายรวมถึงกระทรวงคมนาคมจะยอมรับผลการศึกษาโครงการจัดหารถเมล์ NGV 4 พันคันที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)ไปศึกษาทบทวน โดยเฉพาะประเด็นเปรียบเทียบการเช่าและการซื้อ หลังจากในที่ประชุมครม.วันนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าวิธีการใดคุ้มค่ากว่ากัน โดยให้ใช้เวลาศึกษา 1 เดือน
ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ปรับลดจำนวนรถเมล์ NGV ในโครงการนี้ที่กำหนดไว้ 4 พันคัน แต่สภาพัฒน์จะพิจารณาอื่น ๆ อย่างรอบคอบ ได้แก่ วงเงินโครงการ, ปริมาณ NGV สำรองในอนาคต, ระบบการเดินรถ, เส้นทางต่าง ๆ, ระบบตั๋ว, การดูแลบำรุงรักษา และค่าซ่อมบำรุง เป็นต้น โดยเปรียบเทียบระหว่าการเช่าและการซื้อ
"ที่ประชุมเห็นว่าสิ่งที่เราทำถือว่าดีที่สุดแล้ว แต่อยากให้สภาพัฒน์กลับไปสรุปให้ชัดเจนว่าการซื้อกับการเช่าอะไรคุ้มค่ากว่ากัน เชื่อว่าทุกฝ่ายจะยอมรับ รวมถึงกระทรวงคมนาคมจะยอมรับผลที่เกิดขึ้น"นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการให้เวลาสภาพัฒน์ศึกษาถึง 1 เดือนนั้น ไม่ได้เป็นการยืดเวลาการพิจารณาโครงการให้เลื่อนไปหลังจากการพิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 4 แสนล้านบาทในขั้นตอนของรัฐสภาที่กำหนดมีขึ้นในช่วงกลางเดือนนี้ แม้ว่าวานนี้กลุ่ม 40 ส.ว.จะออกมาระบุว่าจะไม่ให้ความเห็นชอบกับ พ.ร.ก.ดังกล่าว หากครม.เห็นชอบโครงการรถเมล์ NGV
"เรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดว่าจะต้องรอให้ พ.ร.ก.ผ่านก่อน"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อครม.มอบหมายงานให้สภาพัฒน์ไปแล้ว นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมก็เข้าใจ แต่ก็ได้ยืนยันว่าไม่สามารถปรับวงเงินโครงการลงไปได้ต่ำกว่า 6.4 หมื่นล้านบาทอีกแล้ว เพราะได้พิจารณาทุกอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว