ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ขณะที่ค่าเงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนตัวลงก่อนที่ธนาคารกลางยุโรและอังกฤษจะประชุมในวันพฤหัสบดีนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น 1.01% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4158 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.4303 ดอลลาร์/ยูโร และพุ่งขึ้น 1.65% เมื่อเทียบกับปอนด์ที่ 1.6302 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6575 ดอลลาร์/ปอนด์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้น 0.30% แตะที่ 95.940 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 95.650 เยน/ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้น 0.80% แตะที่ 1.0700 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0615 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 2.52% แตะระดับ 0.8002 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8209 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 3.45% แตะระดับ 0.6333 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6559 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
โยเซฟ เทรวิซานี หัวหน้านักวิเคราะห์จาก FXSolutions นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์อย่างคึกคักหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด โดยยอดสั่งซื้อในโรงงานอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% ในเดือนเม.ย.ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 0.9% ขณะที่ภาคบริการของสหรัฐหดตัวลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ ภาคเอกชนลดการจ้างงาน 532,000 ตำแหน่งในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 525,500 ตำแหน่ง
ค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากสำนักงานสถิติสหภาพยุโรปเผยยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการส่งออกในไตรมาส 1 ร่วงหนักสุดในรอบเกือบ 14 ปี ขณะที่อัตราการลงทุนร่วงลงอย่างหนักท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงทั่วโลกที่ส่งผลให้บริษัทลดการผลิตและพนักงานลง
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของยุโรปหดตัวลง 2.5% จากระดับไตรมาส 4 สอดคล้องกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่วนการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนหดตัว 0.5% และการส่งออกอ่อนตัวลง 8.1% การนำเข้าลดลง 7.2% ซึ่งถือเป็นสถิติที่ร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่ได้มีการรวบรวมข้อมูลในปี 2538 สำหรับการลงทุนร่วง 4.2% หลังจากที่หดตัว 4.3% ในไตรมาสที่แล้ว
นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนตัวลงก่อนที่ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษจะประชุมในวันพฤหัสบดี โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ท่ 1% และ 0.5% ตามลำดับ
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยข้อมูลประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงาน
ส่วนวันศุกร์กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยอัตราว่างงานและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.2% ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 9% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 25 ปี