"เบอร์นันเก้"เตือนยอดขาดดุลคุกคามเสถียรภาพการเงินสหรัฐ แนะเร่งกู้ศรัทธานักลงทุน

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 4, 2009 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณแห่งสภาคองเกรส ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในขณะนี้กำลังส่งผลคุกคามเสถียรภาพด้านการเงิน พร้อมกับเตือนว่า ยอดขาดดุลงบประมาณที่อยู่ในระดับสูงจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษบกิจในระยะยาว โดยการแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้มีขึ้นในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ทั้งในและต่างประเทศแสดงความวิตกกังวลต่อยอดขาดดุลงบประมาณที่บานปลายของสหรัฐ

"แม้สหรัฐจะพยายามใช้มาตรการเพื่อบรรเทาภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพด้านการเงิน แต่การรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม รัฐบาลสหรัฐจะต้องเร่งวางแผนลดยอดขาดดุลงบประมาณ ก่อนที่ปัญหาดังกล่าวจะส่งผลคุกคามเสถียรภาพด้านการเงิน" เบอร์นันกเก้กล่าวต่อคณะกรรมาธิการฯ

ทำเนียบขาวคาดการณ์ว่า ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2552 หรือสูงกว่าปีงบประมาณก่อนหน้าถึง 4 เท่า ส่วนตัวเลขขาดดุลปีงบประมาณ 2553 ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค. คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์

ตัวเลขขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐทุ่มเม็ดเงินจำนวนมากไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและกู้วิกฤตตลาดเงิน โดยก่อนหน้านี้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของสหรัฐพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.548 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2551 หลังจากที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 1.62 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2550

"การที่รัฐบาลเข้าแทรกแซงระบบเศรษฐกิจด้วยการใช้มาตรการฟื้นฟูหลายรอบและยังใช้เม็ดเงินกระตุ้นการใช้จ่ายโดยตรงของผู้บริโภคถือเป็นสิ่งจำเป็นและเหมาะสมก็จริง แต่ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้อง 'ปรับสมดุล' ระหว่างสิ่งที่ควรจะจ่ายและสิ่งที่ควรจะออม ผมเข้าใจดีว่าสภาคองเกรสและคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังเผชิญกับความท้าทาย แต่สิ่งที่ต้องเร่งทำในเวลานี้คือการสร้างเสถียรภาพในระบบการเงิน ลดจำนวนบ้านที่ถูกยึด และกระตุ้นการปล่อยกู้ในภาคการธนาคารให้ไหลลื่นมากขึ้น หากรัฐบาลทำสำเร็จ ผมก็มั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง" เบอร์นันเก้กล่าว

ส่วนกรณีที่นางแองเจลา มาเคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี วิพากษ์วิจารณ์มาตรการยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยของเฟดว่า จะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ในอนาคตนั้น เบอร์นันเก้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ด้วยความเคารพ ผมไม่เห็นด้วยกับมุมมองของเธอ เศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก รวมถึงเยอรมนีกำลังเผชิญวิกฤตการณ์การเงินแบบเดียวกันก็จริง แต่ระบบเศรษฐกิจของเยอรมนีและสหรัฐต่างกันมาก และผมมั่นใจว่าเฟดเดินมาถูกทางแล้ว"

ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณแห่งสภาคองเกรสครั้งนี้ เบอร์นันเก้เน้นย้ำความเชื่อที่ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐจะสิ้นสุดลงในปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้เตือนว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นอีกแม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม สำนักข่าวเอพีรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ