องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดองค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า วิกฤตการณ์ด้านแรงงานทั่วโลกอาจยืดเยื้อยาวนานถึง 8 ปี โดยทั่วโลกต้องเตรียมสร้างงานรองรับคนงานอย่างน้อย 30 ล้านคนภายในปีพศ. 2558 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าอัตราว่างงานจะยังคงมีเสถียรภาพ
"หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปมาก เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มหดตัวลง 1.3% ในปีนี้ และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าและอาจถึงปีพ.ศ.2554 เนื่องจากบริษัทที่ล้มลายมีจำนวนมากขึ้น และจำนวนคนยากจนก็มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ สถานะด้านการเงินของชนชั้นกลางก็อ่อนแอลง" ฮวน โซมาเวีย ผู้อำนวยการ ILO กล่าวในที่ประชุมประจำปี
ในการประชุมครั้งนี้ ฮวนได้เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกเร่งแก้ไขปัญหาการว่งงานและเพิ่มสวัสดิการในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นเรื่องการให้ความช่วยเหลือธนาคารและโรงงานอุตสาหกรรมที่ประสบปัญหาด้านการเงิน
"ที่ผ่านมา ชาติมหาอำนาจในกลุ่ม G20 ได้ใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อสกัดกั้นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่คาดว่าตัวเลขว่างานจะฟื้นตัวขึ้นก็น่าจะหลังจาก 4-5 ปีผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้วิกฤตการณ์ด้านแรงงานทั่วโลกยืดเยื้อยาวนานถึง 8 ปี" โซมาเวียกล่าว
ILO คาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจะส่งผลให้ตัวเลขว่างงานเพิ่มขึ้นอีก 40 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ และจะทำให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 7.1%
"ภาวะเศรษฐกิจถดถอยและตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกล่าช้าออกไปจนถึงปี 2553 แม้รัฐบาลในหลายประเทศเริ่มใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การจะฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้นั้นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ" โซมาเวียกล่าว สำนักข่าวเอพีรายงาน