กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 29 พ.ค.พุ่งขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 366 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 1.4 ล้านบาร์เรล
-- สตีเวน บอลเมอร์ ซีอีโอของไมไครซอฟท์ คอร์ป บริษัทซอฟท์แวร์รายใหญ่สุดของโลก กล่าวว่า บริษัทอาจต้องย้ายพนักงานบางส่วนไปประจำการในต่างประเทศ หากสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายขึ้นภาษีกำไรจากต่างประเทศของบริษัทสัญชาติอเมริกัน
-- กระทรวงคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การใช้จ่ายเงินทุนภาคเอกชนของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้หดตัวลลง 25.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งทำสถิติดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2545 ขณะที่ผลกำไรก่อนหักภาษีของภาคเอกชนดิ่งลงหนักเป็นประวัติการณ์ถึง 69.0% แตะที่ 4.27 ล้านล้านเยน (4.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
-- เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณแห่งสภาคองเกรส ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในขณะนี้กำลังส่งผลคุกคามเสถียรภาพด้านการเงิน พร้อมกับเตือนว่า ยอดขาดดุลงบประมาณที่อยู่ในระดับสูงจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษบกิจในระยะยาว โดยการแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้มีขึ้นในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ทั้งในและต่างประเทศแสดงความวิตกกังวลต่อยอดขาดดุลงบประมาณที่บานปลายของสหรัฐ
-- นายเนลสัน โจบิม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของบราซิล กล่าวว่า เครื่องบันทึกเสียงและข้อมูลหรือกล่องดำของเครื่องบินโบอิ้ง เอ330 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์พร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือ 228 คนที่ประสบอุบัติเหตุตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติคเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น อาจจมอยู่ใต้ท้องมหาสมุทรแอตแลนติค โดยเครื่องบินกองทัพอากาศบราซิลได้ค้นพบเศษซากเครื่องบินในมหาสมุทรบริเวณ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งเศษซากเครื่องบินที่เก็บมาได้นั้น ชิ้นหนึ่งเป็นโลหะที่มีความยาว 7 เมตร หรือ 23 ฟุต อีกทั้งยังมีคราบน้ำมันเป็นทางยาวถึง 20 กิโลเมตร แต่ยังไม่พบศพ
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.7% ทำสถิติขยายตัวได้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9% ซึ่งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตอาจเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว
-- จีนเปิดจตุรัสเทียนอันเหมินให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปเยี่ยมชมอีกครั้งในเช้าวันนี้ (4 มิ.ย.) หลังจากที่ปิดล้อมบริเวณด้วยรั้วโลหะเมื่อคืนนี้ เพื่อกันไม่ให้ประชาชนมาร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์นองเลือดที่รัฐบาลจีนได้ใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มนักศึกษาผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ณ จัตุรัสเมื่อปี 2532 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
-- สถาบันจัดการอุปทาน (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการบริการของสหรัฐหดตัวช้าสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว โดยอยู่ที่ระดับ 44 จุดในเดือนพ.ค. จาก 43.7 จุดในเดือนเม.ย. ซึ่งตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 จุดถือว่าหดตัว
-- องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดองค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า วิกฤตการณ์ด้านแรงงานทั่วโลกอาจยืดเยื้อยาวนานถึง 8 ปี โดยทั่วโลกต้องเตรียมสร้างงานรองรับคนงานอย่างน้อย 30 ล้านคนภายในปีพศ. 2558 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าอัตราว่างงานจะยังคงมีเสถียรภาพ
-- สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดว่า ธุรกิจสายการบินทั่วโลกปีนี้ จะขาดทุนมากกว่า 4.7 พันล้านดอลลาร์ตามที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกทำให้ความต้องการในการเดินทางและการใช้บริการในชั้นธุรกิจหดตัวลง พร้อมกับย้ำว่าธุรกิจสายการบินจะไม่ฟื้นตัวขึ้นจนกว่าจะถึงปี 2554
-- วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส สายการบินรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ มีแผนที่จะสั่งซื้อเครื่องบินถึง 150 ลำ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่โดดเด่นท่ามกลางดีมานด์การเดินทางที่ลดลงและสถานการณ์การกู้ยืมที่ตึงตัว
-- ฝรั่งเศสเผยอัตราว่างงานพุ่งสูงในช่วงไตรมาสแรกของปี หลังเศรษฐกิจประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยยาวนานสุดในรอบ 60 ปี อันเป็นผลมาจากภาคการผลิตและส่งออกที่ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
-- มากาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกโรงเตือนไม่ให้รัฐบาลนานาประเทศตื่นตูมกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มากเกินไป แม้แหล่งข่าววงในจะเผยว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าทางองค์การอาจประกาศให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการระบาดใหญ่ครั้งแรกในรอบ 40 ปีก็ตาม