นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)วานนี้เห็นชอบให้เพิ่มโควต้าการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 52 อีก 2 ล้านตัน โดยยังคงรับจำนำถึงภายในวันที่ 31 ก.ค.52 วงเงิน 24,000 ล้านบาท ด้วยการกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เพื่อใช้รับจำนำที่ราคาตันละ 11,800 บาท โดยจะแบ่งโควต้าไปตามแต่ละจังหวัด
ส่วนข้าวเปลือกนาปรังในพื้นที่ภาคใต้จะขยายระยะเวลาจนถึงวันที่ 30 ก.ย.52 โดยรับจำนำราคาตันละ 11,800 บาทเช่นกัน ส่วนวิธีการรับจำนำจะแบ่งเป็นโควต้าและขึ้นอยู่กับผลผลิตของจังหวัด ซึ่งการรับจำนำรอบใหม่นี้เกษตรกรที่เข้าโครงการรับจำนำมาก่อนหน้านี้จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
ทั้งนี้ นางพรทิวา ระบุว่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ได้รายงานจำนวนข้าวเปลือกที่ทุกจังหวัดรายงานมา ณ วันนี้ พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 8.2 ล้านตัน จากเดิมที่มีการรายงานว่ามีเพียง 7.6 ล้านตัน ซึ่งรัฐบาลจะกู้เงินจาก ธ.ก.ส.เพิ่มอีกจำนวน 2.36 หมื่นล้านบาท และเมื่อครบตามจำนวนจะไม่มีการรับจำนำของปี 52 อีกแล้ว
ส่วนปัญหาที่อาจจะมีการนำข้าวเก่ามาเวียนเทียนนั้น รมว.พาณิชย์ ยืนยันว่า ในขณะนี่ทางกระทรวงยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว แต่ในที่ประชุมก็ได้มีการกำชับให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเกิดขึ้น
รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมไม่ได้การหารือในเรื่องโครงการระบายข้าวสารเพื่อการส่งออกที่ค้างในกรณีของ 17 บริษัทที่ประมูลไปแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการส่งให้อัยการสูงสุดตีความว่ารัฐบาลจะยกเลิกสัญญาการประมูลได้หรือไม่