บริษัท ริโอ ทินโต ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองของออสเตรเลียและยังเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ได้ยกเลิกแผนการทำข้อตกลงด้านการลงทุนกับบริษัท อลูมิเนียม คอร์ป ออฟ ไชน่า หรือบริษัท ไชนาลโค ของจีนแล้วในวันนี้ หลังจากที่ไชนาลโค ได้เสนอเงินลงทุนในบริษัทถึง 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์
ริโอ ทินโต จะระดมทุนถึง 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์ในการขายหุ้น โดยนักลงทุนจะได้ข้อเสนอหุ้นใหม่ 21 หุ้น สำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นที่ราคา 1,400 เพนซ์ บีเอชพี บิลลิตัน จะตั้งบริษัทร่วมทุนทำธุรกิจสินแร่เหล็กสัญชาติออสเตรเลีย โดยตกลงที่จะจ่ายให้กับริโอ ทินโต 5.8 พันล้านดอลลาร์ในการลงทุนตั้งบริษัทใหม่ดังกล่าว
ข้อตกลงวันนี้ ทำให้ริโอ ทินโต สามารถลดหนี้สินลง 3.89 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยไม่ต้องขายหุ้นในเหมืองขนาดใหญ่สุดให้กับไชนาลโค ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลจีน
ปราสาด พัทการ์ ผู้บริหารของพลาทิพุส แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ข้อตกลงของไชนาลโคนั้นมีข้อผิดพลาดในแง่ของยุทธศาสตร์ ตลาดคิดถูกต้องแล้วในเรื่องการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับทีมผู้บริหารและคณะกรรมการบริหารบริษัทที่พยายามจะเข้ามาแทรกแซงผู้ถือหุ้น แต่ก็ต้องให้โอกาสแก่ประธานคนใหม่ของริโอ ทินโต ด้วย
ข่าวดังกล่าวทำให้หุ้นของบริษัท ริโอ ทินโต ในตลาดหุ้นออสเตรเลียดีดตัวขึ้นถึง 13% เมื่อเวลา 12.12 น.ตามเวลาท้องถิ่นในออสเตรเลีย นับเป็นสถิติการดีดตัวที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2550 ส่วนหุ้นบีเอชพี ทะยาน 9.3% นับเป็นสถิติที่ดีดตัวขึ้นสูงสุดเช่นกัน นับตั้งแต่ที่ได้ยกเลิกแผนการซื้อกิจการริโอ ทินโต ส่วนหนึ่ง เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องระดับหนี้สิน
เซียง เหว่ยผิง ประนของไชนาลโค กล่าวว่า บริษัทรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับความล้มเหลวเรื่องแผนการลงทุนครั้งนี้
บีเอชพี และริโอ ทินโต คาดว่า จะสามารถประหยัดงบได้กว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ด้วยการรวมสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับสินแร่เหล็กในเขตพิลบาร่า โดยทั้ง 2 บริษัทจะถือหุ้นรายละ 50% ในบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ และจะยังคงขายสินแร่เหล็กของตนเองอย่างเป็นอิสระต่อไปผ่านเครือข่ายการตลาดของบริษัท
ปีเตอร์ อาร์เดน นักวิเคราะห์ทรัพยากรของออร์ด มินเน็ท พันธมิตรของเจพี มอร์แกน เชส กล่าวว่า บีเอชพี จัดการเรื่องนี้ได้ดี และถือเป็นข้อตกลงสำหรับทั้ง 2 บริษัทในช่วงที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลง บลูมเบิร์กรายงาน