นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้น 9.2% ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 9% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 25 ปี และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางการฟื้นของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะเดียวกันคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐจะลดลง 520,000 คน ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงน้อยที่สุดในรอบ 7 เดือน
จอห์น ซิลเวีย หัวหน้านักวิเคราะห์จากวาโชเวีย คอร์ป กล่าวว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐเริ่มบรรเทาลงเนื่องจากจำนวนคนตกงานในสหรัฐเริ่มลดน้อยลง ประกอบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาคอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ชาวอเมริกันก็ยังคงจับจ่ายน้อยลงและออมเงินมากขึ้น นอกจากนี้ มูลค่าบ้านหดตัวลงและบริษัทหลายแห่งรวมถึงเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปลดพนักงานจำนวน ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ขัดขวางการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
สตีเฟน ริชชิอูโต นักวิเคราะห์จาก Mizuho Securities USA Inc กล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกหดตัวลง 5.7% เศรษฐกิจที่ยังคงหดตัวลงทำให้แทบทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจสหรัฐลดการจ้างงาน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เราเชื่อว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 9% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 25 ปี"
นักลงทุนในตลาดนิวยอร์กและทั่วโลกจับตาดูอัตราว่างงานในสหรัฐมากที่สุด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยอัตราว่างงานประจำเดือนพ.ค.ในคืนวันศุกร์นี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน