ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์พุ่งสูงขึ้นเทียบยูโรหลังตัวเลขขอสวัสดิการว่างงานลดลง

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) หลังจากที่สหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานเดือนพ.ค.ต่ำกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วง 1.57% แตะที่ 1.3964 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4187 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 1.22% แตะที่ 1.5981 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6178 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 2.36% เมื่อเทียบกับเยนที่ 98.850 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 96.570 เยน/ดอลลาร์ และเงินดอลลาร์ยังแข็งค่าขึ้น 1.69% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์สวิสที่ 1.0860 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0680 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วง 1.12% แตะที่ 0.7934 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.8024 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วง 1.26% แตะที่ 0.6263 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6343 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

กระทรวงแรงงานสหรัฐได้รายงานอัตราว่างงานเดือนพ.ค.ที่พุ่งสูงขึ้น 9.4% ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดในรอบกว่า 20 ปี แต่ตัวเลขการขอสวัสดิการว่างงานเดือนพ.ค.อยู่ที่ 345,000 ราย นับเป็นตัวเลขที่ลดลงอย่างมากนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว

สถิติดังกล่าวบ่งชี้ว่า แม้อัตราว่างงานจะยังคงเพิ่มขึ้น แต่ก็เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง นักวิเคราะห์มองว่า ความสัมพันธ์กันระหว่างข่าวลบในสหรัฐและเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นนั้น อาจจะสิ้นสุดลงในเร็วๆนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะหลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้ก่อนประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจรายอื่นๆ

มาร์ค แชนด์เลอร์ นักวิเคราะห์ค่าเงินของบราวน์ บราเธอร์ส ฮาริแมน กล่าวว่า นโยบายเชิงรุกของรัฐบาล และบริษัทที่ลดสินค้าคงคลังลงและอัตราการปลดพนักงานอย่างรวดเร็วกว่าผลผลิตที่ลดลง ทำให้มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นก่อนประเทศใด และข่าวดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐก็อาจจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในที่สุด