ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือนเม.ย.ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์สินค้าด้านการส่งออก
กระทรวงการคลังเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นหดตัว 54.5% แตะที่ 6.305 แสนล้านเยน (6.4 พันล้านดอลลาร์) จากปีก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคระห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ที่ 8.50 แสนล้านเยน
การค้าที่ซบเซานั้นเป็นผลพวงจากวิกฤตการเงินโลกที่ทำให้ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีตัวเลขขาดดุลบัญชีเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ขณะที่อุปสงค์เริ่มมีเสถียรภาพขึ้นนับจากนั้น
ซูซูมุ คาโต้ นักวิเคราะห์จากคาลียง ซีเคียวริตี้ในโตเกียวกล่าวว่า "แม้ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นจะเกินดุลอยู่ แต่ตัวเลขดังกล่าวจะไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้จนกว่าการส่งออกจะดีขึ้น อุปสงค์จากต่างประเทศเริ่มส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวแล้ว แต่สถานการณ์ต่างๆก็ยังไม่มีความแน่นอน"
ทั้งนี้ ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนเม.ย.ลดลง 40.6% หลังจากที่ดิ่งลง 46.5% ในเดือนมี.ค.และทรุดลงหนักเป็นประวัติการณ์ที่ 50.4% ในเดือนก.พ. ขณะที่ยอดนำเข้าร่วง 37.8% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเดือนมี.ค.
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีเมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่า วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งรุนแรงที่สุดอาจถึงจุดจบแล้ว
"อุปสงค์ในเอเชียกำลังฟื้นตัวขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าอุปสงค์ในสหรัฐและยุโรปจะดีดตัว" คาโต้กล่าว