บีพี พีแอลซี เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมันสำรองทั่วโลกลดลงในปีที่แล้ว โดยมีสำรองน้ำมันของรัสเซีย นอร์เวย์ และจีนที่เป็นแกนนำในการปรับตัวลง ขณะที่ปริมาณน้ำมันสำรองทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 1.258 ล้านล้านบาร์เรลเมื่อสิ้นสุดปีที่แล้ว ลดลงจาก 1.261 ล้านล้านบาร์เรลในปีก่อนหน้า
"ปริมาณน้ำมันในรัสเซีย นอร์เวย์ จีน และอีกหลายประเทศปรับตัวลดลง แม้ปริมาณน้ำมันในเวียดนาม อินเดีย และอียิปต์จะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม" บีพีกล่าว
ด้านปริมาณน้ำมันสำรองของซาอุดิอารเบียที่มีมากที่สุดในโลกอยู่ที่ระดับ 2.641 แสนล้านบาร์เรลในปี 2551 ลดลงเล็กน้อยจาก 2.642 แสนล้านบาร์เรลในปี 2550
บริษัทผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ทั่วโลกต่างพยายามหาน้ำมันมาสำรองไว้ เนื่องจากการขุดบ่อน้ำมันใหม่ๆเริ่มยากขึ้นและบ่อน้ำมันเดิมอย่างในอังกฤษและเม็กซิโกก็เริ่มร่อยหรอ ในขณะที่รัสเซียก็เพิ่งผ่านกฎหมายจำกัดการถือครองแหล่งพลังงานในประเทศของชาวต่างชาติ
บริษัท แซนฟอร์ด ซี. เบิร์นสไตน์ แอนด์ โค เปิดเผยว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาไม่มีบริษัทผลิตน้ำมันขนาดใหญ่แม้แต่รายเดียวที่เพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองด้วยการสำรวจแหล่งน้ำมันใหม่หรือขยายแหล่งน้ำมันที่มีอยู่เดิม อย่าง รอยัล ดัทช์ เชลล์ พีแอลซี บริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป ก็ใช้วิธีเทคโอเวอร์กิจการอื่นเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันสำรอง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน