สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากรัฐบาลสหรัฐนำพันธบัตรออกประมูลจำนวนมาก โดยราคาทองปิดทรงตัวสวนทางกับราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดทรงตัวที่ 954.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 947.50-966.70 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินเดือนก.ค.ปิดที่ 15.225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงเดือนก.ค.ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 2.3670 ดอลลาร์ต่อปอนด์
สัญญาพลาตินั่มเดือนก.ค.ปิดที่ 1,273.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนก.ย.ปิดที่ 258.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์
ริชาร์ด เฟลเตส นักวิเคราะห์จาก MF Globa กล่าวว่า ตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐได้นำพันธบัตรประเภท 10 มูลค่ารวม 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ออกประมูลขายและมีผู้ซื้อจำนวนมาก
พอล วอล์กเกอร์ ซีอีโอบริษัทวิจัย GFMS เชื่อว่าราคาทองคำจะไม่พุ่งสูงไปจากจุดพื้นฐานของตลาดทองคำมากนัก โดยเชื่อว่าตลาดทองคำจะยังมีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ราคาทองคำทะยานขึ้นแล้ว 8.7% เนื่องจากนักลงทุนต้องการซื้อเพื่อเก็งกำไรและใช้เป็นแหล่งลงทุนทางเลือก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรปได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยพร้อมทั้งกระตุ้นสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ภาคเอกชน