นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย(TTR) เปิดเผยผลประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญของโลก(กลุ่มเครนส์) ครั้งที่ 33 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งสมาชิกทั้ง 19 ประเทศต่างลงนามในแถลงการณ์ร่วม Bali Communique ที่มีประเด็นสำคัญ 4 ประการ
ประการแรก การกระตุ้นให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการบรรลุข้อตกลงในการเจรจารอบโดฮา ซึ่งจะมีผลบวกในการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก ประการที่ 2 การเรียกร้องให้มีการเจรจาเพื่อผลักดันให้ประเทศกำลังพัฒนาลดมาตรการอุดหนุนสินค้าเกษตรในรูปแบบต่างๆ
ประการที่ 3 การเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ หลีกเลี่ยงการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าสินค้าเกษตร ทั้งมาตรการทางภาษีและไม่ใช่ภาษี โดยเฉพาะสหรัฐและสหภาพยุโรปให้ยกเลิกมาตรการอุดหนุนการส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์ที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป(EU)เพิ่งนำกลับมาใช้ใหม่
และประการสุดท้าย การให้ทุกฝ่ายทั้งระดับผู้ปฏิบัติงาน และระดับการเมืองแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองที่จะกลับมาเจรจากัน และพยายามสรุปการเจรจารอบโดฮาให้ได้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ดี การประชุมครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนายปาสคาล ลามี ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก(WTO) รวมทั้งสหรัฐฯ, จีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย และสหภาพยุโรปที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
นายเกียรติ กล่าวว่า ไทยได้มีโอกาสหารือกับผู้อำนวยการ WTO ในข้อกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหารือระดับทวิภาคีกับคอสตาริกาที่มีความประสงค์จะซื้อข้าวจากไทย ตลอดจนการสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ
กลุ่มเครนส์(Cairns) เป็นกลุ่มประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญของโลก มีสมาชิก 19 ประเทศ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, อาร์เจนตินา, โบลิเวีย, บราซิล, แคนาดา, ชิลี, โคลัมเบีย, คอสตาริกา, กัวเตมาลา, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์, ปากีสถาน, ปารากวัย, เปรู, ฟิลิปปินส์, อุรุกวัย, แอฟริกาใต้ และไทย โดยมีออสเตรเลียเป็นแกนนำและผู้ประสานงานของกลุ่ม