นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์และสวีเดนกล่าวว่า เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศอาจถดถอยต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงซบเซาสืบเนื่องมาจากภาคการส่งออกที่ย่ำแย่ ในขณะเดียวกันเงินทุนของทั้งสองประเทศก็ลดลงอย่างมาก
"เราคาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้" เฟรดริก เรนเฟลด์ต นายกรัฐมนตรีสวีเดน ให้สัมภาษณ์ระหว่างการประชุมนายกรัฐมนตรีกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียที่ไอซ์แลนด์เมื่อวานนี้
"แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้น แต่คงต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่ตลาดแรงงานจะฟื้นตัว" เจนส์ สโตลเทนเบิร์ก นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ กล่าว
เศรษฐกิจนอร์เวย์และสวีเดนกำลังอยู่ในภาวะถดถอยหนักสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 หลังภาคการค้าทั่วโลกซบเซาหนักจนส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกของทั้งสองประเทศ ทำให้อัตราว่างงานพุ่งสูง ในที่สุดนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศจึงต้องประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นตลาดแรงงาน ส่งผลให้เงินทุนของรัฐบาลลดลง
ธนาคารกลางสวีเดนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสวีเดนจะหดตัวลงราว 4.5% ในปีนี้ ส่วนธนาคารกลางนอร์เวย์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจนอร์เวย์จะหดตัวลง 1%
รัฐบาลสวีเดนคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานในประเทศจะทะยานแตะ 8.9% ในปีนี้ และ 11.7% ภายในปี 2554 หลังบริษัทหลายแห่งในประเทศก็เตรียมปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนอัตราว่างงานในนอร์เวย์อาจทะยานแตะ 3.75% ในปีนี้ และ 4.75% ในปีหน้า
รัฐบาลสวีเดนจะทุ่มงบประมาณ 4.5 หมื่นล้านโครเนอร์ (5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยงบประมาณ 1 หมื่นล้านโครเนอร์จะนำไปกระตุ้นตลาดแรงงาน ส่วนนายกฯ นอร์เวย์ ซึ่งจะลงชิงชัยในการเลือกตั้งในเดือนก.ย.นี้ ให้คำมั่นว่าจะทุ่มงบประมาณ 3% ของจีดีพีเพื่อลดอัตราว่างงานในประเทศ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน