ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์แข็งเทียบยูโร-ปอนด์ หลังตลาดหุ้นซบหนุนนลท.แห่ซื้อดอลล์

เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินปอนด์ แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) หลังมีกระแสคาดการณ์ว่า บรรยากาศการซื้อขายที่ซบเซาในตลาดหุ้นจะกระตุ้นให้นักลงทุนหลั่งไหลเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงมากขึ้น

โดย ณ เวลา 20:05 น.(GMT) ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3793 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4021ดอลลาร์ต่อยูโรในวันศุกร์ที่ผ่านมา และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.6306 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.6442 ดอลลาร์ต่อปอนด์

เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับ 97.840 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 98.400 เยนต่อดอลลาร์ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0918 ฟรังค์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.0789 ฟรังค์ต่อดอลลาร์

ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7947 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.8122 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ลดลงแตะระดับ 0.6309 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6425ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักวิเคราะห์จากบริษัท Tokyo Forex & Ueda Harlow Ltd กล่าวผ่านทางบลูมเบิร์กว่า "ตลาดหุ้นที่ซบเซาบ่งชี้ให้เห็นว่านักลงทุนต้องการปลีกตัวออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ดังนั้นเงินเยนจึงมีแรงซื้อเข้ามามาก รวมถึงเงินดอลลาร์ที่นักลงทุนมองว่าปลอดความเสี่ยงด้วยเช่นกัน"

โดยเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากที่เมื่อวานนี้ หลังจากที่สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) คาดว่า เศรษฐกิจของอังกฤษจะยังไม่ฟื้นตัวจนกว่าจะถึงปี 2553 พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะหดตัว 0.3% ในไตรมาส 2 และอ่อนตัว 0.1% ในไตรมาส 3 ก่อนที่จะหยุดนิ่งในไตรมาส 4

นักวิเคราะห์จาก Rabobank International ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า "เงินปอนด์เคลื่อนไหวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ขณะนี้ตลาดยังมีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวอยู่บ้าง ดังนั้นหากตลาดหุ้นยังคงซบเซาต่อเนื่องและนักลงทุนยังเผชิญแรงกดดันต่อการซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงแล้วละก็ เงินปอนด์ก็อาจอ่อนค่าลงอีกเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ"