เงินเยนและดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง เนื่องจากภาวะซบเซาของตลาดหุ้นได้กระตุ้นให้เทรดเดอร์ต้องการถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงมากขึ้น
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียววันนี้ หลังมีกระแสคาดการณ์ว่า ผู้นำจากประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีนที่เข้าร่วมประชุมกันในวันนี้จะหารือถึงวิกฤตการเงินโลกและจะส่งสัญญาณว่า เงินดอลลาร์จะยังคงมีสถานะเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลกต่อไป
ด้านเงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินยูโรหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ในกลุ่มประเทศยุโรป 16 ชาติอาจสูญเงิน 2.83 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปลายปีหน้าจากการตั้งสำรองหนี้สูญ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10:29 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนไต่ระดับขึ้นแตะที่ 133.37 ยูโร/เยน จากระดับ 134.99 ยูโร/เยนเมื่อวานนี้ ขณะที่เงินดอลลาร์เทรดที่ระดับ 1.3771 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.3803 ยูโร/ดอลลาร์
ด้านเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ 96.86 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 97.84 เยน/ดอลลาร์ หลังเคลื่อนไหวแตะที่ 97.01 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา
"ตลาดหุ้นที่ตกต่ำลงบ่งชี้ให้เห็นว่านักลงทุนไม่ต้องการซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง" มาซาโนบุ อิชิกาว่า นักวิเคราะห์จากโตเกียว ฟอเร็กซ์ แอนด์ อูเอดะ ฮาร์โลว์กล่าว "เงินเยนได้รับแรงซื้อเข้ามา และสถานะของเงินดอลลาร์ที่เป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลกจะยังมีแรงซื้อเข้ามาด้วยเช่นกัน"
นอกจากนี้ เงินเยนแข็งค่าขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น เงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลดลง 1% แตะที่ 78.74 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ลดลง 0.9% ไปอยู่ที่ 65.24 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์