ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐตำหนิผู้บริหารในตลาดวอลล์สตรีท พร้อมกับคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นถึง 10% ในช่วงสิ้นปีนี้ และแสดงความมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัว แต่การฟื้นตัวขึ้นอย่างเต็มรูปแบบจะต้องใช้เวลานาน
โอบามาได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กก่อนที่จะประกาศแผนการปรับโครงสร้างการกำกับดูแลตลาดการเงินว่า ที่ผ่านมาผู้บริหารในย่านวอลล์สตรีทคงจะมีความจำสั้นไปแล้วว่า เศรษฐกิจสหรัฐใกล้จะล้มละลายเพียงใด และตอนนี้รัฐบาลก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะตามล้างตามเช็ดเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ เตรียมเสนอให้มีการจัดตั้งสำนักงานคุ้มครองผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับผู้บริโภค โดยให้อำนาจองค์กรในการลงโทษบริษัทที่ทำผิดกฎ รวมทั้งดึงอำนาจบางส่วนจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) โดยโอบามาจะประกาศเปิดตัวสำนักงานคุ้มครองผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับผู้บริโภคในวันพรุ่งนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการยกเครื่องกฎระเบียบด้านการเงิน ซึ่งองค์กรจะมีอำนาจในการสั่งห้ามใช้เงื่อนไขหรือการดำเนินการใดๆที่ไม่มีความเป็นธรรม ซึ่งปัจจุบันอำนาจดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของ FED
โอบามากล่าวต่อไปว่า เขามั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นในเร็วๆนี้ และชี้ว่าการขยายตัวอย่างสดใสของระบบเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสหรัฐสามารถควบคุมภาวะขาดดุลงบประมาณ โดยไม่จำเป็นต้องขึ้นภาษีกับชาวอเมริกันส่วนใหญ่
"ตอนนี้ เราเริ่มที่จะเห็นปัจจัยผลักดันเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นแล้ว แต่ก็คงจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ ในขณะที่ภาคครัวเรือนก็จำเป็นต้องชำระหนี้ที่สะสมมาในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์รุ่งเรือง ส่วนอัตราว่างงานคาดว่า จะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับสูงสุดในรอบ 25 ปีที่ 9.4% มาเป็น 10% เนื่องจากนายจ้างยังคงจ้างพนักงานใหม่ในอัตราที่น้อยมาก และก็ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า อัตราว่างงานจะเริ่มลดลงเมื่อใด" โอบามากล่าว