ที่ประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศ BRIC ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน ได้เรียกร้องให้มีการใช้ระบบเงินที่มีความหลากหลายเพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังไม่ได้รับการตอบสนอง เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า พันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ที่ขายโดยประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ยักษ์ใหญ่ทั้ง 4 ประเทศนั้น ให้ผลตอบแทนดีกว่าตราสารหนี้ในสกุลเงินเรียล รูเบิล และหยวน
บลูมเบิร์กรายงานว่า ลุทซ์ คาร์โพวิทซ์ นักวิเคราะห์สกุลเงินของคอมเมิร์ซแบงค์ เอจี กล่าวว่า การที่จะกำหนดว่าสกุลเงินใดจะเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลกนั้น ไม่ควรจะเป็นเรื่องของนักการเมือง ท้ายที่สุดแล้ว ควรจะให้ตลาดเป็นผู้ตัดสินใจ
ผลตอบแทนพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ที่จีนจำหน่ายเพิ่มขึ้น 11.4% เมื่อปีที่แล้ว ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรเงินดอลลาร์ของบราซิลเพิ่มขึ้น 3.6% แต่พันธบัตรเงินดอลลาร์ของรัสเซียอ่อนตัว 1.9% ขณะที่อินเดียไม่มีตราสารหนี้สกุลเงินดอลลาร์
ทั้งนี้ พันธบัตรที่มีการซื้อขายในรูปของเงินดอลลาร์นั้นแซงหน้าตราสารหนี้ภายในประเทศ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัสเซียและจีนเป็นผู้บริหารเงินรูเบิลและเงินหยวนเอง ขณะที่พันธบัตรที่ซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐสามารถซื้อขายกันได้อย่างเป็นอิสระ ส่งผลให้ผู้จัดการกองทุนมีความมั่นใจว่า จะขายหลักทรัพย์ออกไปได้และได้เงินคืนมาเมื่อต้องการ