สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า อัตราว่างงานในประเทศพุ่งขึ้น 7.2% แตะระดับ 2.261 ล้านรายในช่วงระยะเวลา 3 เดือนจนถึงเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 13 ปี แต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ในขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานก็เพิ่มขึ้น 39,000 รายในเดือนพ.ค. แต่ก็ยังน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีมากถึง 60,000 ราย ซึ่งนักวิเคราะห์ได้แสดงความพอใจในตัวเลขดังกล่าว แต่เตือนว่ายังเร็วไปที่จะฟันธงว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว
เดวิด เคิร์น นักเศรษฐศาสตร์จากหอการค้าอังกฤษ กล่าวว่า "ตัวเลขว่างงานดังกล่าวดีกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงน่าวิตก และยังเร็วไปที่จะฟันธงว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรเลิกใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจนกว่าจะมีหลักฐานแน่ชัดว่าเศรษฐกิจมีเสถียรภาพแล้ว"
"ตัวเลขที่ออกมาเป็นสัญญาณที่ดีมากและแสดงให้เห็นว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว" อลัน คลาร์ก นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท บีเอ็นพี พาริบาส์ กล่าว "อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจคงไม่ฟื้นตัวเร็วนัก และในระหว่างนั้นอัตราว่างงานคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง"
ในขณะเดียวกัน รอสส์ วอล์คเกอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท อาร์บีเอส ไฟแนนเชียล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า "ตัวเลขที่ออกมาดีเกินคาด แม้จะยังฟันธงไม่ได้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว แต่มันก็เป็นสัญญาณที่ดี"
ส่วนทางด้าน ฟิลิป ชอว์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท อินเวสเทค กล่าวว่า "นี่เป็นอีกครั้งที่อัตราว่างงานขยายตัวน้อยเกินคาด ซึ่งถือเป็นข่าวดีมาก"