นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการที่ ธป. ได้มีการตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อเมื่อ 18 พ.ค. จนถึงวันนี้ ครบ 1 เดือน พบว่ามีประชาชนทั่งประเทศร้องเรียนปัญหาดังกล่าวจำนวน 500 ราย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อย
ปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนส่วนใหญ่เกี่ยวกับการปฎิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน จำนวน 160 ราย ติดอยู่ในบัญชีเครดิตบูโร จำนวน 44 ราย เอกสารการยืนกู้ไม่ครบ จำนวน 28 ราย ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 10 ราย และถูกปฎิเสธโดยไม่ทราบสาเหตุ จำนวน 20 ราย
นายสรสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาการร้องเรียนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นผลจากเกณฑ์การกำกับสินเชื่อของทางการไม่ชัดเจน โดยเฉพาะในรายที่ลูกค้าเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ซึ่ง ธปท.ขอยืนยันว่าไม่มีกฎเกณฑ์ห้ามและจะเร่งเข้าไปหารือกับสถาบันการเงินเพื่อให้แก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตัวของผู้กู้โดยตรง เช่น คุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์การรับสินเชื่อและบัตรเครดิต หรือมีความเสี่ยงต่อการชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนด เห็นว่าหากผู้ขอสินเชื่อสามารถพิสูจน์แหล่งรายได้ชัดเจน ก็สามารถให้สถาบันการเงินทบทวนสินเชื่อใหม่อีกครั้งได้
ทั้งนี้ ยังพบปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำที่ 10% ของมูลค่าหนี้ ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ธปท.บังคับใช้และปัญหาเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ประเภทอื่นรวมแล้วมีปัญหา 53 ราย ซึ่งกรณีนี้ลูกหนี้สามารถปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินเจ้าของบัตรได้โดยตรง แต่สถาบันการเงินบางแหล่งอาจมีขั้นตอนในการรับเรื่องและพิจารณาล่าช้าบ้าง
นายสรสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาที่ได้รับการร้องเรียน ธปท.จะได้เร่งดำเนินการติดต่อไปยังสถาบันการเงินที่ถูกร้องเรียนมา เช่นการ ปัญหาการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการคืนเงินกู้ก่อนกำหนด ซึ่งได้รับความรวมมือจากสถาบันการเงินทุกแห่ง ลดวงเงินผ่อนชำระจาก 3-4% เหลื 0.5% ของวงเงินกู้ยืม และได้กำหนดให้สถาบันการเงินทุกแห่งเร่งดำเนินแก้ไขปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมาภายในระยะเวลา 7 วันทำการ
"ขณะนี้ได้เริ่มมีการแก้ไขปัญหาไปแล้ว โดยได้มีการประสานงานไปยังสถาบันการเงินที่ถูกร้องเรียนกว่า70% หรือ 300 ราย เหลืออีกกว่า 100 ราย จะเร่งทำให้" นายสรสิทธิ์ระบุ