ธนาคารกลางสวิสตัดสินใจตรึงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในวันนี้ พร้อมประกาศว่าจะใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อป้องกันมิให้เงินฟรังก์แข็งค่าเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด
ธนาคารกลางสวิสตัดสินใจตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% ในวันนี้ หลังจากที่ลดดอกเบี้ยรวม 2.5% นับตั้งแต่เดือนต.ค.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการลดดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ทางธนาคารเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรและแทรกแซงตลาดเงินเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี
"ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืดลดลงแล้วแต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังอยู่" ธนาคารกลางสวิสระบุในแถลงการณ์ "ทางธนาคารจะใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อป้องกันมิให้เงินฟรังก์แข็งค่าเมื่อเทียบเงินยูโร และจะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจต่อไป"
ปัจจุบันเศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์กำลังอยู่ในภาวะถดถอยครั้งรุนแรงสุดในรอบกว่า 30 ปี โดยภาคการส่งออกหดตัวลงถึง 17% ในช่วงปีที่ผ่าน ส่วนอัตราว่างงานก็พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และดัชนีราคาผู้บริโภคก็ร่วงหนักสุดในรอบ 5 ปีในเดือนพ.ค.
"เมื่อพิจารณาจากสภาพการณ์ในตอนนี้ เชื่อว่าธนาคารกลางสวิสทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว" แจน แอมริท โพเซอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Bank Sarasin ในซูริค กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า "ธนาคารกลางต้องขยายขอบเขตการใช้นโยบายทางการเงินต่อไป"
นอกจากนั้นธนาคารกลางสวิสยังยืนยันว่าจะซื้อหุ้นกู้ของภาคเอกชนที่ผูกติดกับเงินฟรังก์ต่อไป