นายอลิสแตร์ ดาร์ลิ่ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษเริ่มมีความเห็นไม่ลงรอยกับนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์เรื่องบประมาณการใช้จ่าย ขณะที่รัฐบาลอังกฤษกำลังเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากในการควบคุมยอดขาดดุลบัญชี
โดยนายกรัฐมนตรีบราวน์ได้กล่าวย้ำถึงความเป็นจำเป็นที่ต้องเพิ่มตัวเลขการใช้จ่ายและนำเงินไปใช้ด้านการพัฒนาโรงเรียนและโรงพยาบาล ซึ่งเขาหวังชูประเด็นการเพิ่มตัวเลขการใช้จ่ายเป็นนโยบายหลักสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งในปีหน้า โดยเขาได้กล่าวกับสหภาพ GMB ในต้นสัปดาห์นี้ว่า พรรคแรงงานต้องสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ บราวน์กล่าวว่า การใช้จ่ายเงินทุนจะขยายตัวไปจนถึงปี 2555 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการจัดการแข่งขันโอลิมปิก ขณะที่นายดาร์ลิ่งคาดว่า การลงทุนในโครงการต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ถนนหนทางจะลดลงเหลือ 2.6 หมื่นล้านปอนด์ในปี 2555 จากระดับ 4.4 หมื่นล้านปอนด์ในปีงบประมาณปัจจุบัน
ฟิลิปิ ชอว์ นักวิเคราะห์จาก Investec Securities ในกรุงลอนดอนกล่าวกับทางบลูมเบิร์กว่า "สภาพเศรษฐกิจขณะนี้กำลังสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่อังกฤษต้องลดตัวเลขขาดดุลบัญชี ขณะที่นักการเมืองบางรายไม่เห็นถึงความจำเป็นในการทำเช่นนั้น"
อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดกันว่า ยอดขาดดุลบัญชีของอังกฤษจะมีจำนวนมากที่สุดในกลุ่มประเทศจี-7 เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้รายได้ในการจัดเก็บภาษีลดลงและกดดันให้กระทรวงคลังระดมเงินจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น 2.20 แสนล้านปอนด์ (3.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)