ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิววยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และรมว.คลังสหรัฐยืนยันเป้าหมายการเพิ่มมาตรการกำกับดูแลภาคการธนาคาร นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าอันดับเครดิตของสหรัฐจะไม่ได้รับผลกระทบ
ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 96.510 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 95.690 เยนต่อดอลลาร์ และฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0867 ฟรังค์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.0798 ฟรังค์ต่อดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3893 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.3940 ดอลลาร์ต่อยูโร และค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.6326 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.6390 ดอลลาร์ต่อปอนด์
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ระบุว่า ยังไม่มีแนวโน้มที่ S&P จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐในระยะใกล้นี้ แม้ว่ารายได้ของภาครัฐจะอ่อนตัวลงมากก็ตาม
S&P ระบุในรายงานว่าจะคงอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐที่ระดับ Aaa ต่อไป และแนวโน้มเครดิตยังคงมีเสถียรภาพ โดยในเดือนที่แล้วสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่เป็นคู่แข่งของ S&P อย่าง มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เพิ่งออกมากล่าวว่า อันดับเครดิตที่ระดับ Aaa ของรัฐบาลสหรัฐนั้น ยังมีเสถียรภาพ แม้ว่าประเทศจะมีหนี้เพิ่มขึ้นมากก็ตาม
นิโคลา สวอนน์ นักวิเคราะห์ของ S&P กล่าวว่า แม้แนวโน้มเศรษฐกิจระยะใกล้ของสหรัฐจะอ่อนตัวลงมาก อันเนื่องมาจากยอดขาดดุลงบประมาณและค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนภาคการเงินที่อยู่ในระดับสูง แต่ S&P ก็ยังเชื่อว่า เครดิตของรัฐบาลสหรัฐยังคงมีจุดแข็งเหนือกว่าจุดอ่อนเหล่านี้
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐว่า ยอดชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 148,000 ราย แตะระดับ 6.76 ราย ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจพุ่งขึ้น 1.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 ปี