นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.)กล่าวภายหลังเข้าหารือผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ว่า ธปท.รับปากจะดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ากว่าคู่แข่ง เพราะที่ผ่านมาค่าเงินบาทเราแข็งกว่าคู่ค้า 1% โดยธปท.ระบุว่าค่าเงินบาทในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาไม่หวือหวามากและค่อนข้างมีเสถียรภาพ ซึ่งธปท.ยืนยันที่จะดูแลไม่ให้ผันผวน
"ตอนนี้ธปท.รับปากจะดูแลไม่ให้บาทแข็งค่ากว่าคู่ค้า จากปัจจุบันที่ค่าเงินบาทแข็งกว่าคู่ค้า 1%" นายสันติ กล่าว
ประธาน สอท.กล่าวว่า ในการหารือในวันนี้เป็นการพบคุยกันประจำปีและมีการคุยกันในหลายประเด็น ทั้งอัตราแลกเปลี่ยน สภาพคล่อง Hedging ขณะที่ทาง สอท.ก็เสนอหลายเรื่อง โดยเฉพาะการดูแลสภาพคล่องให้ SMEs เพราะไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อแบงก์รัฐได้ ซึ่งทาง ธปท.รับปากจะประสานกับทางแบงก์รัฐให้
นอกจากนี้ ในวันนี้ ธปท.ได้ชี้แจงว่า เงินบาทที่แข็งค่าเกิดจากเงินไหลเข้ามาลงทุนตลาดหุ้น ดังนั้น จึงพบการเก็งกำไรค่าเงินน้อยมาก อีกทั้งชี้แจงถึงรายงานภาวะเศรษฐกิจการเงิน และสถานะแบงก์ให้ทราบ ซึ่งตอนนี้สภาพคล่องส่วนเกินในระบบตอนนี้สูงมาก ทำให้ความสามารถในการปล่อยกู้ของแบงก์มีมากด้วย แต่ปัญหาของ SMEs ขณะนี้ คือ ข้อจำกัดหลักประกันสินเชื่อไม่ค่อยมี
ส่วนในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย ขณะนี้ได้ลดลงมามากแล้ว ซึ่ง สอท.ได้เสนอขอให้แบงก์พาณิชย์อะลุ่มอล่วยกฎเกณฑ์ให้ด้วย เพราะ SMEs ในต่างจังหวัดค่อนข้างมีปัญหาสภาพคล่องและการเข้าถึงสินเชื่อ ขณะที่ ธปท.ยังได้แนะนำให้ภาคเอกชนทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น
พร้อมกันนั้น ยังขอให้ ธปท.ช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวด้วยเพราะขอสินเชื่อได้ยาก ซึ่ง ธปท.รับไปประสานงานให้
นายสันติ กล่าวถึงตัวเลขการส่งออกล่าสุดที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศว่ายังหดตัวลง 26.6% แต่มูลค่า 11,656 ล้านดอลลาร์ ค่อยๆ เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าตามคำสั่งซื้อในระยะสั้นที่เพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมที่การส่งออกค่อนข้างดี ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์