ที่ประชุมสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ วันนี้ จะมีการหารือเรื่องเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยที่ประชุมตัดสินใจว่าจะไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่เห็นว่าควรคิดวางแผนหายุทธศาสตร์ที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อดึงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นมากกว่านี้
ร่างการประชุมระบุว่า งบประมาณพิเศษที่ประเทศสมาชิกนำมาใช้จะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอีก 5% ในปีนี้และปีหน้า ซึ่งช่วยสนับสนุนการฟื้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากที่มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะหดตัวลง 4% ในปีนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ร่างแถลงการณ์ที่เป็นบวกดังกล่าวทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น และทำให้พันธบัตรรัฐบาลยุโรปอ่อนตัวลง ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1.3928 ดอลลาร์ต่อยูโร เมื่อเวลา 9.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น จากระดับ 1.3900 ดอลลาร์ต่อยูโร
นางแองเจล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ผลักดันให้รัฐบาลนานาประเทศลดยอดขาดดุลงบประมาณ ซึ่งอียูคาดว่าอาจจะสูงถึงระดับเฉลี่ยที่ 6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในปีนี้ จากระดับ 2.3% ในปีที่แล้ว
ข้อมูลยอดค้าปลีกที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเมื่อเดือนเม.ย.และความเชื่อมั่นทางธุรกิจและผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเดือนพ.ค.อาจจะทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอียูเริ่มที่จะหลุดพ้นจากจุดต่ำสุดของวิกฤตแล้ว