บริษัทผลิตยาหลายแห่งยินดีทุ่มทุนสูงสุด 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ตลอดระยะเวลา 10 ปีต่อจากนี้ เพื่อช่วยให้ผู้สูงวัยในอเมริกาซื้อหายาได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวว่าเป็น "จุดเปลี่ยน" ในการปฏิรูประบบสาธารณสุขในประเทศ
บลูมเบิร์กรายงานว่า PhRMA กลุ่มการค้าซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทยาหลายแห่ง อาทิ ไฟเซอร์ อิงค์ และ อีไล ลิลลี่ แอนด์ โค กล่าวว่า บริษัทผลิตยาที่เข้าร่วมโครงการจะลดราคายาแบรนด์ดังต่างๆ สูงสุดถึง 50% นอกจากนั้น PhRMA ยังเป็น 1 ใน 6 กลุ่มการค้าในอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพที่ให้คำมั่นว่าจะช่วยรัฐบาลลดค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์ให้ได้ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีต่อจากนี้ด้วย
"เรากำลังแสดงให้ชาวอเมริกันทุกคนเห็นว่าเราพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยปฏิรูประบบสาธารณสุขให้ดีขึ้น" เคน จอห์นสัน รองประธานอาวุโสของ PhRMA กล่าว
"การปฏิรูประบบสาธารณสุขของประเทศกำลังถึงจุดเปลี่ยนแล้ว" โอบามากล่าวในแถลงการณ์ "ผู้ผลิตยาซึ่งเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมสาธารณสุขได้รู้อย่างที่ชาวอเมริกันทุกคนรู้แล้วว่า ระบบสาธารณสุขที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่ใช่วิถีที่ยั่งยืนอีกต่อไป"
ถึงกระนั้นก็มีหลายฝ่ายตั้งคำถามว่ารัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าขยายระบบสาธารณสุขครั้งใหญ่สุดในรอบกว่า 40 ปี ในขณะที่หอการค้าสหรัฐซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ก็เริ่มรณรงค์ต่อต้านการปฏิรูประบบสาธารณสุขในครั้งนี้
ทั้งนี้ สภาคองเกรสกำลังพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูประบบสาธารณสุข ซึ่งโอบามาขีดเส้นตายไว้ว่าต้องเสร็จสิ้นในเดือนต.ค.นี้