โตโยต้า มอเตอร์ ชี้แนวโน้มของตลาดรถในสหรัฐยังไม่มีความชัดเจนจากเดิมที่ตลาดรถในสหรัฐนั้นเป็นตลาดที่ทำกำไรได้มากที่สุด ขณะที่ซีอีโอของบริษัทได้ตัดสินใจลงจากตำแหน่ง โดยมีอากิโอะ โตโยดะ หลานของผู้ก่อตั้งบริษัท จะเข้ามาทำหน้าที่หัวเรือใหญ่แทนในวันนี้ พร้อมกับคาดว่า ปีนี้ บริษัทคงจะมียอดขาดทุนสูงถึง 5.580 แสนล้านเยน หรือ 5.76 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น และยอดขายในสหรัฐที่ตกลงถึง 39% ขณะที่ดีมานด์ที่ร่วงลงในสหรัฐก็ทำให้ค่ายรถสหรัฐอย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) และไครสเลอร์ ต้องยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลายไป
นายคัตสึอากิ วาตานาเบ้ ประธานโตโยต้า กล่าวในการประชุมประจำปีวันนี้ กล่าวว่า ขณะนี้ ตลาดบางประเทศมีการฟื้นตัวขึ้น แต่ตลาดรถในสหรัฐนั้นยังเห็นภาพได้ไม่ชัดเจนนัก
บลูมเบิร์กรายงานว่า เอ็ดวิน เมอร์เนอร์ เจ้าหน้าที่ของแอตแลนติส อินเวสเมนท์ รีเสิร์ช คอร์ป กล่าวว่า ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าตะเกิดอะไรขึ้นในตลาดสหรัฐ แต่ถ้าการผลิตของจีเอ็มและไครสเลอร์ลดลง นั่นก็หมายความจะต้องมีบริษัทใดบริษัทหนึ่งขายรถได้มากขึ้น
หุ้นโตโยต้า ร่วงลง 2.7% ในตลาดหุ้นโตเกียว เมื่อเวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในโตเกียว
ในปีงบประมาณการเงิน 2551 บริษัทขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 59 ปี และได้ลดต้นทุนไปอย่างน้อย 8 แสนล้านเยนในปีนี้ ขณะที่คาดการณ์ว่า ยอดขายจะอ่อนตัวลง 1.07 ล้านคัน หรือ 14% แตะ 6.5 ล้านคันในปีงบประมาณปัจจุบัน
มาซายูกิ คูโบตะ เจ้าหน้าที่ของไดวา เอสบี อินเวสเมนท์ กล่าวว่า สิ่งที่โตโยต้าต้องการในขณะนี้ก็คือผู้นำที่แข็งแกร่งเพื่อปรับโครงสร้างบริษัท โตโยดะและทัมงานผู้บริหารใหม่จะต้องแก้ปัญหาที่มีอยู่โดยเร็ว
โคจิ เอ็นโดะ นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิส ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า เมื่อโตโยดะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานโตโยต้าอย่างเป็นทางการแล้ว เขาคงจะลดต้นทุนต่างๆลง ด้วยการลดการผลิตภายในประเทศและพนักงานลงอย่างน้อย 10% ตลอดจนถึงลดแพลทฟอร์มลง 20 แพลทฟอร์ม และรถ 70 รุ่นลง 10% รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่าวดีลเลอร์ในต่างจังหวัดภายในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวน่าจะช่วยให้ต้นทุนคงที่ของโตโยต้าลดลงไปได้ 10%