นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สนพ.เรียกเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นในอัตราลิตรละ 40-70 สตางค์ ประกอบด้วย น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันเบนซิน 91 เก็บเพิ่มลิตรละ 70 สตางค์ ส่วนกลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล์และน้ำมันดีเซลเก็บเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์
ทั้งนี้ จะส่งผลให้อัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 5.90 บาท, เบนซิน 91 ลิตรละ 4.60 บาท, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 1.17 บาท, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 57 สตางค์, ดีเซลลิตรละ 30 สตางค์ ส่วนน้ำมันไบโอดีเซล บี 5 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังชดเชยราคาอยู่ที่ลิตรละ 2.23 บาท จากเพดานการจัดเก็บสูงสุดของน้ำมันทุกชนิดที่ลิตรละ 7 บาท
นายวีระพล ยืนยันว่า การที่กระทรวงพลังงานเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะเป็นการเรียกเก็บจากค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับลิตรละ 1.60 บาท ในช่วงที่ผ่านมา และหลังจากจัดเก็บแล้วจะทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มีสถานะที่ติดลบเพราะมีรายได้กับรายจ่ายที่ต้องชดเชยอัตราภาษีสรรพสามิตเท่ากันคือเดือนละ 3,600 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ขณะนี้กระทรวงพลังงานยังไม่ได้รับทราบนโยบายของกระทรวงการคลังว่าจะมีการประกาศลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันลงหรือไม่ หลังจากที่ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวขึ้นไปถึงลิตรละ 2 บาท ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.ที่มีการประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ในช่วง 2-3 ที่ผ่านมา ราคาลดลงรวมประมาณ 6 ดอลลาร์/บาร์เรล ล่าสุดปิดตลาดวันที่ 23 มิ.ย. น้ำมันเบนซินลดลง 2.92 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.13 ดอลลาร์/บาร์เรล, น้ำมันดีเซลลดลง 2.81 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.38 ดอลลาร์/บาร์เรล, น้ำมันดิบดูไบลดลง 2.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.80 ดอลลาร์/บาร์เรล