สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเผย การประเมินสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่ำไปอาจทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐหยุดชะงัก และอาจส่งผลให้ยอดขายบ้านซบเซา รวมทั้งสร้างแรงกดดันต่อราคาบ้านในอนาคต หลังมีรายงานว่าราคาบ้านมือสองลดลง 17% ในเดือนพ.ค.จากปีที่ผ่านมา
ลอว์เรนซ์ ยูน นักวิเคราะห์จากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐกล่าวว่า "ขณะนี้มีลูกค้าหลายพันคนชะลอหรือยกเลิกการทำสัญญาซื้อขายบ้าน ขณะที่หลายกระแสมองว่าปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นปัญหาใหญ่"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อกำหนดเรื่องการประเมินสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีผลเมื่อวันที่ 1 พ.ค. นั้นจัดทำขึ้นระหว่างผู้ประเมินและเจ้าหน้าที่เงินกู้ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันผลกระทบไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้
ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประเมินสถานการณ์ตลาดกล่าวว่า เมื่อมูลค่าบ้านอยู่ต่ำกว่าราคาขายจริง นั่นไม่ใช่ความผิดของผู้ประเมินราคา แต่มันสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงในตลาด ซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคกีดขวางการฟื้นตัวของตลาดในยามที่อัตราดอกเบี้ยเริ่มพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ยอดการยึดทรัพย์หลุดจำนองมีเพิ่มเป็นจำนวนมาก รวมถึงอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นนับตั้งแต่ปี 2526
ทั้งนี้ ยอดขายบ้านของสหรัฐในเดือนพ.ค.ลดลง 3.6% จากปีก่อนหน้านี้ ส่งผลให้จำนวนบ้านในตลาดลดลง 3.5% มาอยู่ที่ 3.8 ล้านยูนิต ขณะที่ราคาบ้านในเดือนเม.ย.ตกลง 6.8% จากปีก่อน