นักวิเคราะห์คาดยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเดือนพ.ค.ลดลง 0.9%

ข่าวต่างประเทศ Wednesday June 24, 2009 16:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐในเดือนพ.ค.อาจปรับตัวลดลงเป็นครั้งที่สองในรอบ 3 เดือน ซึ่งภาวะดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า บริษัทเอกชนยังไม่มั่นใจว่าวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยจะสิ้นสุดลงได้ในเร็ววัน

โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่มีอายุการใช้งานนานหลายปีอาจปรับตัวลดลง 0.9% หลังจากที่ขยายตัวขึ้น 1.7% ในเดือนเม.ย. ขณะเดียวกันภาวะขาลงของราคาสินค้าอาจช่วยกระตุ้นยอดขายบ้านใหม่ในเดือนที่แล้วให้เพิ่มสูงขึ้นเป็นครั้งแรกที่ระดับ 2.3% นับตั้งแต่ปี 2550 มาแตะที่ระดับ 360,000 หลังจาก 352,000 หลังในเดือนที่แล้ว หลังจากที่เมื่อวานนี้ สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐรายงานยอดขายบ้านมือสองที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนล็อตใหม่ที่ตกต่ำลงได้รับแรงกดดันซ้ำเติมจากการล่มสลายของตลาดยานยนต์สหรัฐหลังไครสเลอร์ และเจนเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป (จีเอ็ม) ปรับโครงสร้างองค์กร และมีแนวโน้มว่าภาวะตกต่ำเช่นนี้จะยังยืดเยื้อไปจนกว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคจะฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจส่งสัญญาณว่า จุดต่ำสุดของวิกฤตเศรษฐกิจกำลังสิ้นสุดลง ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น

ไมเคิล อิงลันด์ นักวิเคราะห์จากแอ็คชั่น อีโคโนมิกส์ แอลแอลซีกล่าวว่า "การใช้จ่ายภาคธุรกิจจะยังคงบั่นทอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ บริษัทต่างๆยังไม่อยากลงทุนจนกว่าจะได้เห็นถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์"

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเวลา 08:30 น.ตามเวลาท้องถิ่น (คืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย) และจะรายงานยอดขายบ้านใหม่ในเวลา 10:00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ