องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มสมาชิกรวม 30 ประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี เนื่องจากเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยครั้งรุนแรงสุดในรอบ 60 ปีกำลังจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐ ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนั้น เริ่มส่งสัญญาณว่าภาวะวิกฤตกำลังคลี่คลาย
OECD ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจประจำครึ่งปีว่า เศรษฐกิจของประเทศสมาชิกจะหดตัวลง 4.1% ในปีนี้ และจะกลับมาขยายตัว 0.7% ในปีหน้า หลังจากที่คาดการณ์เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัว 4.3% ในปี 2552 และ 0.1% ในปี 2553
ในส่วนของเศรษฐกิจของแต่ละประเทศสมาชิกนั้น OECD คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัว 2.8% ในปีนี้ เทียบกับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 4.0% และจะกลับมาดีดตัวขึ้น 0.9% ในปีหน้า
ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจหดตัวถึง 6.8% ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนน่าจะหดตัวลง 4.8%
สำหรับเศรษฐกิจโลกนั้น คาดว่าจะดีดตัว 2.3% ในปีหน้า หลังจากที่หดตัว 2.2% ในปีนี้ ซึ่งเศรษฐกิจโลกสำหรับ OECD หมายถึงเศรษฐกิจของ 30 ประเทศที่เป็นสมาชิก OECD บวกกับเศรษฐกิจของสมาชิกกลุ่ม BRIC ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย และ จีน
อย่างไรก็ตาม OECD เตือนว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคงเป็นไปอย่างเชื่องช้าหากรัฐบาลไม่ช่วยสร้างเสถียรภาพให้ธนาคาร
"เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าและเปราะบางไปอีกระยะหนึ่ง" จอร์เกน เอลเมสคอฟ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจของ OECD กล่าว
OECD กล่าวว่า ความเร็วในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะแตกต่างกันตามภูมิภาค โดยเศรษฐกิจจีนดูเหมือนว่าจะฟื้นตัวแล้ว แต่เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มว่ายังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มเจือจาง ในขณะที่ธนาคารหลายแห่งต่างก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ ส่วนเศรษฐกิจยูโรโซนก็มีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัวช้าเช่นกัน เนื่องจากอัตราว่างงานที่พุ่งสูงส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายผู้บริโภค
OECD แนะนำให้แต่ละประเทศเริ่มใช้ "ยุทธศาสตร์ภายหลังวิกฤต" ควบคู่ไปกับมาตรการที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและมั่นคง ส่วนประเทศที่ยังไม่ให้ความช่วยเหลือธนาคารก็ต้องทำ และต้องให้ธนาคารต่างๆ เข้ารับการทดสอบความแข็งแกร่งของธนาคาร (stress test) เพื่อรื้อฟื้นความเชื่อมั่นด้วย
OECD แนะด้วยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ไม่ควรขึ้นดอกเบี้ยก่อนปีพ.ศ. 2554 แต่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ควรลดดอกเบี้ยลงอีก
ทั้งนี้ การปรับเพิ่มแนวโน้มเศรษฐกิจครั้งล่าสุดของกลุ่ม OECD นั้น ขัดแย้งกับของธนาคารโลก ซึ่งได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงอีก โดยเมื่อวันจันทร์ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัว 2.9% เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์เมื่อ 3 เดือนก่อนว่าจะหดตัวเพียง 1.7% และคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในปีหน้า ที่อัตราการขยายตัวราว 2% แต่ลดลงจากระดับคาดการณ์ครั้งก่อนว่าจะขยายตัว 2.3%