พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)มั่นใจว่า ในเดือน ส.ค.นี้จะได้ความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดทุกอย่างในการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 กิ๊กกะเฮิร์ตช และมั่นใจว่าจะสามารถเปิดประมูลด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction)ภายในสิ้นปีนี้ โดยเห็นว่าราคาใบอนุญาต 3G ไม่ควรเกิน 5 พันล้านบาท
"ผมคิดว่าในเดือน ส.ค.คงจะได้ข้อชัดเจนว่าจะจัดสรรคลื่นความถึ่ 3G กี่ราย และจำนวนเท่าไร มูลค่าคลื่นควรจะเป็นเท่าไร" ประธานคณะกรรมการ กทช. กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ ขั้นตอนที่จะประมูลเมื่อไร สำนักงาน กทช.จะต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการกทช.อีกครั้งหนึ่งก่อนเปิดประมูลจริง
พล.อ.ชูชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สรุปว่าจะให้ใบอนุญาต 3G จำนวนเท่าไร โดยเบื้องต้นอาจจะแบ่งเป็น 4 หรือ 5 ใบอนุญาต รวมทั้ง การจัดสรรคลื่นความถี่ที่ยังไม่ได้ตกลงกัน จากปัจจุบันมีอยู่ 45 เมกะเฮิร์ตซ ซึ่งที่ปรึกษาและสำนักงาน กทช.กำลังศึกษาเพื่อเสนอให้คณะกรรมการฯ ตัดสินใจว่าควรจะจัดสรรอย่างไร ซึ่งยังอยู่ในชั้นตอนพิจารณาว่าอาจจะแบ่งให้รายละ 5 เมกะเฮิร์ตซ หรือรายละ 10 เมกะเฮิร์ตซ หรือ จะแบ่งให้รายละ 10 เมกะเฮิร์ตซ 3 รายและอีกรายให้ 15 เมกะเฮิร์ตซ
"บริษัทที่ปรึกษาต้องช่วยเราดูด้วยว่าภาวะเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างนี้ควรจะมีใบอนุญาตสักกี่ใบ เราก็ต้องดูให้รอบคอบ เรามีอยู่ 45 เมกะเฮิร์ตซ สมมติว่าเราแบ่งไว้ให้ 4 เจ้า เราควรจะเปิด 1-2 เจ้าหรือเราควรจะเปิดทั้งหมด อยู่ในขั้นตอนที่กำลังดูกันอยู่ ซึ่งก็ไม่แน่นอนที่จะเปิดให้ทั้งหมด อยู่ที่กรรมการ ถ้ากรรมการโอเคว่าภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ควรให้ทั้งหมด ก็ต้องมาดูว่าให้กี่ราย"พล.อ.ชูชาติ กล่าว
ทั้งนี้ เนร่า จากสหรัฐ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาเกณฑ์การประมูลจะสรุปการดำเนินการประมูลว่าวิธีการประมูลจะเป็นอย่างไรภายในเดือน ก.ค.นี้ รวมทั้งการวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจ และผลกระทบด้านดีและด้านเสียของภาวะเศรษฐกิจ ส่วนในด้านราคาใบอนุญาตนั้น ขณะที่ทางสำนักงาน กทช.ก็จะมีราคากลาง ซึ่งกำลังวิเคราะห์ราคาของคลื่นความถี่กันอยู่
"ราคายังไม่กำหนด ว่าเป็นเท่านั้นเท่านี้ เพราะตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ ว่าคลื่นความถี่ควรจะเป็นเท่าไร ซึ่งศึกษามานานแล้วแต่ยังได้ตัวเลขที่ไม่แน่นอน อย่างนี้ไม่น่าเกิน 5 พันล้านบาท ถ้าเกินก็ตาย คนทำงานก็เจ๊งพอดี แต่คงไม่ถึงหมื่นล้าน แต่ถ้าเขาประมูลกันสูง ผมก็่ช่วยไม่ได้" ประธานคณะกรรมการ กทช. กล่าว