สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า กำไรของบริษัทจีนที่ทำธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมทำกำไรได้ในระดับที่สูงขึ้น หลังจากที่รัฐบาลจีนได้นำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อพยุงยอดส่งออกที่ร่วงอย่างหนัก ส่วนรายได้สุทธิในช่วง 5 เดือนแรกร่วงลง 22.9% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 8.50 แสนล้านหยวน หรือ 1.24 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรร่วงลง 37.3% ในช่วง 2 เดือนแรก
องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน เนื่องจากยอดขายรถยนต์ที่สูงเป็นประวัติการณ์ การทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และผลผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นนั้นมีส่วนช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น ขณะที่ธนาคารกลางจีนได้ให้คำมั่นว่าจะคงระดับกระแสเงินหมุนเวียนในระบบการเงินในช่วงสำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ จีน
บลูมเบิร์กรายงานว่า พอล คาฟวีย์ นักเศรษฐศาสตร์ของแมคควอรี ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเริ่มที่จะฟื้นตัวอย่างแท้จริง และสถานการณ์ต่างๆก็ค่อนข้างจะสดใส
ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานว่า ธนาคารต่างๆของจีนอาจจะขยายวงเงินกู้ใหม่ในเดือนนี้ถึง 1.2 ล้านล้านหยวน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดปีที่แล้วถึง 4 เท่า และยังจะช่วยให้การปล่อยเงินกู้ของจีนคึกคักต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สัญญาณด้านบวกของจีนได้แก่การผลิตพลังงานที่เพิ่มขึ้น 3.7% ในช่วงกลางเดือนมิ.ย.จากระดับปีที่แล้ว ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ก็ขยายตัวขึ้น 32.9% ในช่วง 5 เดือนแรก ขณะที่ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ก็ปรับตัวขึ้น 45.3% การเติบโตของผลผลิตภาคอุตสากรรมเดือนพ.ค.ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ ยอดขายรถก็ทะยานขึ้นเนื่องจากรัฐบาลได้นำมาตรการลดภาษีและให้เงินอุดหนุนมาใช้ ส่งผลให้จีนแซงหน้าสหรัฐในฐานะตลาดรถรายใหญ่สุด