นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง เตรียมพิจารณาออกพันธบัตรออมทรัพย์อีกรอบ โดยขอประเมินผลการออกพันธบัตรออมทรัพย์ล็อตแรกภายใต้แผนไทยเข้มแข็งวงเงิน 50,000 ล้านบาทที่จะเปิดขายตั้งแต่วันที่ 13-21 ก.ค.ก่อน ส่วนระยะเวลาที่ออกจะขอดูสถานการณ์อีกครั้ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เพื่อพิจารณารายละเอียด
ขณะที่นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการ สบน.คาดว่า การออกพันธบัตรออมทรัพย์ในล็อตต่อไปอาจจะเปิดขายในโอกาสพิเศษ เช่น วันแม่แห่งชาติในเดือน ส.ค. หรือวันพ่อแห่งชาติในเดือน ธ.ค. วงเงินราว 3 หมื่นล้านบาท อายุพันธบัตร 7 ปี แต่ยังไม่กำหนดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าตลาดเพื่อจูงใจนักลงทุน ซึ่งปัจจุบันผลตอบแทนในตลาดพันธบัตรอายุ 7 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 3.43% ส่วนอายุ 5 ปีเฉลี่ยที่ 3.03%
"พันธบัตรรอบแรกที่จะออก 5 หมื่นล้านบาท ผู้ที่เข้ามาลงทุนจะถือว่าโชคดี เพราะเราได้ Quote ดอกเบี้ยในช่วงที่ผลตอบแทนยังสูง แต่มาช่วงนี้ผลตอบแทนในตลาดเริ่มลดลงแล้ว"นายพงษ์ภาณุ กล่าว
วันนี้ กระทรวงการคลังได้ลงนามร่วมกับ 7 ธนาคารพาณิชย์ เพื่อเตรียมออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 อายุ 5 ปี วงเงิน 50,00 ล้านบาท โดยจะจำหน่ายระหว่างวันที่ 13-21 ก.ค.52 โดยผลตอบแทนอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 อยู่ที่ 3%, ปีที่ 3 อยู่ที่ 4% และปีที่ 4-5 อยู่ที่ 5%
โดยจะเปิดจำหน่ายพันธบัตรในล็อตแรก 15,000 ล้านบาท เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 13-14 ก.ค.52 เปิดให้เฉพาะผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จำกัดวงเงินซื้อได้ตั้งแต่ 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท
ล็อตสอง 15,000 ล้านบาท เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15-16 ก.ค.52 เปิดให้ประชาชนทั่วไปและผู้มีสิทธิซื้อ จำกัดวงเงินตั้งแต่ 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท และล็อตสาม 20,000 ล้านบาท เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17,20-21 ก.ค.52 เปิดให้ประชาชนทั่วไปและผู้มีสิทธิซื้อ ได้ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไปไม่จำกัดวงเงิน
ธนาคารทั้ง 7 แห่งที่ได้รับสิทธิจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ในครั้งนี้ คือ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารทหารไทย และธนาคารนครหลวงไทย