ผู้บริหารโคมัตสุปลื้มยอดขายในจีนสูงกว่าคาดการณ์หลังรัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นศก.

ข่าวต่างประเทศ Friday June 26, 2009 16:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท โคมัตสุ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้างรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกเผยยอดขายในประเทศจีนสูงกว่าคาดการณ์ หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 5.85 แสนล้านดอลลาร์ โดยยอดขายเครื่องจักรขนาดใหญ่สำหรับงานขุดในจีนเมื่อเดือนเม.ย.ร่วง 15% จากปีก่อน และยังมีอัตราการขยายตัวที่คุ้มทุนเมื่อเดือนพ.ค. นับเป็นสถิติที่ดีกว่าที่โคมัตสุได้คาดการณ์ไว้

ไทโสะ คายาตะ ผู้บริหารที่ดูแลธุรกิจของโคมัตสุในจีน กล่าวว่า ผลของการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานของจีนปรับตัวขึ้นมาเรื่อยๆในเดือนพ.ค.และมิ.ย. บริษัทคาดว่ายอดขายในจีนไตรมาสนี้อาจจะเป็นลบเล็กน้อย แต่ขณะนี้ดูเหมือนว่า ยอดขายอาจจะทรงตัว

บลูมเบิร์กรายงานว่า โคมัตสุและบริษัทคู่แข่ง อาทิ แคททาพิลลาร์ ต้องพึ่งพาโครงการก่อสร้างทางรถไฟและถนหนทางในจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน เพื่อกระตุ้นดีมานด์ เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆยังคงอ่อนตัว โดยมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของจีนทำให้ยอดขายเครื่องจักรที่ใช้สำหรับขุดปรับตัวขึ้น ช่วยชดเชยดีมานด์ที่หดตัวลงของบริษัทที่ทำธุรกิจเหมืองถ่านหินได้ หลังจากที่บริษัทเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากยุคเฟื่องฟูของธุรกิจเหมืองที่สิ้นสุดลงเมื่อปีที่แล้ว

สมาคมผู้ผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการส่งออกเครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้างของญี่ปุ่นร่วงลงถึง 65% แตะ 7.18 หมื่นล้านเยน หรือ 749 ล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั้งในประเทศและยุโรป รวมทั้งสหรัฐที่ทำให้ดีมานด์ในการก่อสร้างหดตัวลง

คายาตะกล่าวว่า ยอดขายในจีนเมื่อเดือนมิ.ย.มีแนวโน้มที่จะขยายตัวในช่วง 10-20% และคาดว่าจะปรับตัวขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ และมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการคาดการณ์ดีมานด์จะปรับตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง และอัตราการฟื้นตัวจะแข็งแกร่งกว่าที่เราได้คาดการณ์ไว้ บริษัทกำลังผลิตเครื่องจักรที่ใช้ในการขุดที่มณฑลเจียงซูของจีนมากขึ้นถึง 30% ซึ่งเป็นสถิติที่สูงกว่าที่ได้มีการวางแผนไว้ในช่วงแรก หลังจากที่ตลาดเครื่องจักรประเภทนี้หดตัวลงถึง 20% ในไตรมาส 1 และ 50% ในไตรมาส 2

คายาตะกล่าวว่า รายได้จากจีนจะขยายตัวประมาณ 15% ของยอดขายทั้งหมดของบริษัทในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นจากระดับปีงบประมาณ 2551 ประมาณ 10%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ