นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า ธนาคารยังประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ ติดลบ 3% ตามเดิม โดยคาดว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2-3/52 จะติดลบน้อยกว่า ไตรมาส 1/52 และเศรษฐกิจจะเป็นบวกในไตรมาส 4/52 โดยขณะนี้เห็นว่ายังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่ต่างจากสมมติฐานเดิม และเห็นว่าการใช้จ่ายภาครัฐยังเป็นปัจจัยหลักต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ขณะที่ปัญหาการเมือง ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการใช้จ่ายของรัฐบาล เนื่องจาก รัฐบาลได้มีการกำหนดแผนการใช้จ่ายไว้ชัดเจน ทั้งแผนการกู้เงิน แหล่งเงิน และโครงการใช้เงิน
"ยังไม่ปรับเป้าเศรษฐกิจ เพราะยังไม่มีปัจจัยใดๆ ที่ต่างจากสมมติฐานเดิม ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นปี ปัญหาการเมืองคงไม่กระทบต่อการใช้จ่ายของรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลมีแผนการกู้เงิน แหล่งเงินกู้ชัดเจนแล้ว แต่ปัญหาอื่นๆ ยังไม่รู้ จะมีผลกระทบหรือไม่" นายโฆสิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายโฆสิต เห็นว่า การที่รัฐบาลจะหวังการฟื้นตัวของภาคการส่งออกเพื่อกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจ คงเป็นเรื่องยากกว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมาแล้ว เนื่องจากการส่งออกของไทย ต้องพึ่งพาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ดังนั้น การพัฒนาประเทศในอนาคต รัฐบาลจึงต้องหาแนวทางอื่น เพื่อทดแทนการส่งออก ส่วนการบริโภคภาคเอกชน เชื่อว่าคงไม่ทรุดตัวอีก เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะเข้าไปอุดหนุน แต่การลงทุนและการบริโภคภาคเอกชน ยังมีความอ่อนแอและเปราะบาง ยังจำเป็นต้องได้รับแรงผลักดันจากรัฐบาลต่อไปอีกอย่างน้อย 18 เดือน
ประธานกรรมการบริหาร BBL กล่าวอีกว่า ในปีนี้ ธนาคารยังคงเป้าสินเชื่อที่ 3-5% แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องไม่ง่ายในการที่จะปล่อยสินเชื่อให้ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจาก ช่วง 2 ไตรมาสที่ผานมา กากรปล่อยสินเชื่อยังหดตัวต่อเนื่อง ผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ขณะที่ยอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะพยายามควบคุมดูแล ให้อยู่ระดับไม่เกิน 5% เนื่องจากขณะนี้ เศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว