ไอเอ็มเอฟแนะฝรั่งเศสควบคุมตัวเลขขาดดุลบัญชี รับการขยายตัวทางศก.ปีหน้า

ข่าวต่างประเทศ Monday June 29, 2009 15:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แนะว่ารัฐบาลฝรั่งเศสควรดำเนินนโยบายควบคุมตัวเลขขาดดุลงบประมาณ ในขณะที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาขยายตัวได้ในปีหน้า

ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานว่า "ภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจอาจเริ่มชะลอตัวในช่วงที่เหลือของปี 2552 หลังจากนั้นเศรษฐกิจจะเริ่มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงต้นปี 2553 และหลังจากที่รัฐบาลใช้จ่ายเงินเพื่อสกัดกั้นภาวะถดถอยแล้ว เป็นเรื่องจำเป็นที่เศรษฐกิจจะต้องกลับมาขยายตัวอย่างยั่งยืนให้ได้ในระยะกลาง"

เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรปตกต่ำลงเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งผลักดันให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี ด้านประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีย์ประกาศทุ่มเงินราว 3 หมื่นล้านยูโร (4.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและกระตุ้นการใช้จ่ายโดยมีเป้าหมายที่จะพยุงให้เศรษฐกิจรอดพ้นจากภาวะตกต่ำหนักสุดนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 จนทำให้ฝรั่งเศสมีหนี้สินและยอดขาดดุลที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

อีริค เวิร์ธ รัฐมนตรีจากสำนักงบประมาณเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลบัญชีงบประมาณของฝรั่งเศสอาจขยายตัวอยู่ระหว่าง 7-7.5% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศในปีนี้ และอาจเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับนี้ต่อไปในปี 2553 เนื่องจากรัฐบาลได้เพิ่มการใช้จ่ายขณะที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของประเทศ

"ด้วยตัวเลขหนี้สาธารณะที่สูงอยู่แล้ว ความเสียหายของวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำและแผนกระตุ้นการเงินจะยิ่งทำให้แนวโน้มดุลบัญชีงบการเงินในระยะกลางเลวร้ายลงอีก" ไอเอ็มเอฟระบุว่า "หน่วยงานภาครัฐทุกระดับจำเป็นต้องใช้นโยบายที่ชัดเจนซึ่งต้องระบุไว้ในดุลบัญชีงบประมาณปี 2553"

ทั้งนี้ รัฐบาลยุโรปกำลังเผชิญแรงกดดันในการมุ่งต่อสู้กับภาวะถดถอย ขณะที่นักลงทุนเกรงว่าแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์จะจุดชนวนให้เกิดภาวะเงินเฟ้อตามมา โดยไอเอ็มเอฟระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเมื่อเดือนเม.ย.ว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะขยายตัวที่ 0..4% ในปีหน้า หลังจากที่หดตัวลง 3% ในปีนี้



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ