ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร,เยน หลังจีนยืนยันไม่เปลี่ยนนโยบายทุนสำรอง

ข่าวต่างประเทศ Tuesday June 30, 2009 07:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางจีนออกมายืนยันว่ายังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนนโยบายทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศในระยะใกล้นี้ หลังจากจีนออกมาเรียกร้องให้มีการใช้สกุลเงินอื่นแทนดอลลาร์ในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของโลก ซึ่งท่าทีดังกล่าวได้ฉุดดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อหลายวันก่อน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.83% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 96.010 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 95.220 เยน/ดอลลาร์ แต่ขยับลง 0.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0826 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0835 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.19% แตะที่ 1.4078 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4051 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.27% แตะที่ 1.6564 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6520 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.10% แตะที่ 0.8079 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8071 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.71% แตะที่ 0.6500 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6454 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่เมืองบาเซลของนิวซีแลนด์ในวันนี้ว่า นโยบายทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนมีเสถียรภาพมาก และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวในระยะใกล้นี้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนได้ออกมาเรียกร้องให้มีการใช้สกุลเงินใหม่ในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าจีนอาจนำเงินในทุนสำรองฯออกมากระจายความเสี่ยง โดยปัจจุบันจีนมีทุนสำรองฯมากที่สุดในโลกถึง 1.95 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของธนาคารกลางจีนส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์จากยูบีเอสกล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กค่อนข้างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ตลาดจะปิดทำการในวันศุกร์เนื่องในวันชาติสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานในสัปดาห์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าอัตราว่างงานประจำเดือนมิ.ย.จะขยับขึ้น 0.2% แตะที่ 9.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.จะร่วงลง 350,000 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.ที่ลดลง 345,000 ตำแหน่ง

นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอีซีบีจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม พร้อมกับส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจใน 16 ประเทศของยุโรปยังคงมีเสถียรภาพ หลังจากรัฐบาลยุโรปอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินและลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ