เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนกล่าวว่า จีนอาจอนุญาตให้บริษัทเอกชนในมณทลยูนนานและกวางซี ใช้สกุลเงินหยวนในการทำธุรกรรมการค้าข้ามพรมแดนกับกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อลดความความเสี่ยงในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศ
"มาตรการนำร่องนี้จะช่วยปกป้องกลุ่มผู้ส่งออกไม่ให้ถูกกระทบจากภาวะผันผวนของสกุลเงินต่างๆและยังจะช่วยส่งเสริมการค้ากับ 10 ชาติอาเซียน เรากำลังเตรียมการเรื่องนี้เพื่อให้มาตรการดังกล่าวดำเนินไปอย่างราบรื่น และคาดว่าจะมีการบังคับใช้เร็วๆนี้" นายหน็อง หรง รองเลขาธิการที่ประชุม China-ASEAN Expo กล่าวในวันนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนซึ่งมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก กำลังมองหาลู่ให้บริษัทต่างชาติทำธุรกิจในรูปสกุลเงินหยวนได้ง่ายขึ้น และต้องการผลักดันบริษัทจีนให้เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดในประเทศที่ตั้งอยู่บนแถบสามเหลี่ยมทองคำ หลังจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยได้ฉุดยอดส่งออกของจีนทรุดตัวลง ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน รวมถึงนายหู จิ่นเทา นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ทั่วโลกลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์และจัดตั้งสกุลเงินอื่นๆขึ้นมาทดแทนเงินดอลลาร์
การอ่อนค่าลงของดอลลาร์ทำให้จีนเรียกร้องให้มีการใช้เงินสกุล SDR เป็นค่ามาตรฐานในระบบสำรองเงินตราแทนที่สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าความเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้มีนัยสำคัญต่อตลาดปริวรรตเงินตราทั่วโลกและสะท้อนให้เห็นว่าความสำคัญของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินหลักของระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศกำลังจะจบสิ้นลง
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนทำข้อตกลงสว็อปค่าเงินกับอาร์เจนติน่า เบลารุส ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเกาหลีใต้ เป็นวงเงินรวม 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์