ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนแห่เข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 96.360 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 96.130 เยน/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0866 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0831 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.36% แตะระดับ 1.4024 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4075 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.63% แตะระดับ 1.6450 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6554 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.11% แตะระดับ 0.8060 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8069 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.77% แตะที่ 0.6446 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6496 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดระบุว่า เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนมิ.ย.ร่วงลงสู่ระดับ 49.3 จุด จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 54.8 จุด ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จะอยู่ที่ 55.0 จุด
ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านเดี่ยวลดลงในเดือนเม.ย. โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองลดลง 0.6% ในเดือนเม.ย.หลังลดลง 2.2% ในเดือนมี.ค. และลดลง 18.1% จากปีก่อน ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 10 เขตเมืองลดลง 0.6% ในเดือนเม.ย.และ ลดลง 18% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังร่วงลง 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนมี.ค.
ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. แสดงให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกำลังช่วยให้เศรษฐกิจยุโรปหลุดพ้นจากภาวะถดถอย
โดยคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของทั้งผู้บริหารและผู้บริโภคใน 16 ประเทศที่ใช้เงินยูโรปรับตัวสูงขึ้นแตะ 73.3 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว จาก 70.2 จุดในเดือนพ.ค. นอกจากนั้นยังสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะอยู่ที่ 71 จุด
อัตราว่างงานในเยอรมนีเดือนมิ.ย.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากดีมานด์ที่ร่วงลงและบริษัทล้มละลายมากขึ้นจนบีบให้มีการลดจำนวนพนักงาน โดยสำนักงานแรงงานรัฐเผยจำนวนผู้ว่างงานในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 31,000 ราย แตะ 3.5 ล้านราย ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดว่าจะสูงขึ้น 45,000 ราย