นายสมชัย สัจจพงษ์ โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังและธนาคารโลกได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างหน่วยงานภาครัฐไทยกับธนาคารโลก ภายใต้หัวข้อเรื่อง "แผนไทยเข้มแข็ง" ระหว่างวันที่ 3-4 ก.ค.52 ที่ จ.สุราษฏร์ธานี โดยมีนายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลังเป็นประธานการประชุม
การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายความร่วมมือ และระดมความคิดเห็นร่วมกันระหว่างไทยกับธนาคารโลกภายใต้แผนไทยเข้มแข็ง ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเร่งรัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและจำเป็นของภาครัฐ เพื่อเพิ่มแรงกระตุ้นให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชน เพิ่มการกระจายการลงทุนด้านการบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานสู่ชนบท ซึ่งเป็นการบรรเทาปัญหาว่างงานในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังสร้างโอกาสด้านการลงทุนให้แก่ภาคเอกชน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบทและเกษตรกร ตลอดจนการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาภาคการเงินของไทยในปัจจุบันและใน 2 ปี ข้างหน้าตามกรอบยุทธศาสตร์ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับธนาคารโลกในระยะ 2 ปี (ปี 52-53)
ทั้งนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลก สำนักงานใหญ่ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เดินทางมาเข้าร่วมในการระดมความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของไทย 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ 1.ด้านการเงินของโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการติดตาม ตรวจสอบ และรายงานผลงานในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 (SP2), 2.การเข้าถึงและการบริหารความเสี่ยงทางการคลัง, 3.โครงการอื่นอันเกี่ยวเนื่องกับการให้ความสนับสนุนด้านพืชผลทางการเกษตร การประกันพืชผลทางการเกษตร และการบริหารความเสี่ยงของพืชผลทางการเกษตร และ 4.การเพิ่มความเข้มแข็งในการบริหารความเสี่ยงของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
"การประชุมครั้งนี้คาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปในประเด็นต่างๆ ทั้ง 4 เรื่อง เพื่อสามารถนำมาใช้ในเชิงนโยบาย หรือมีโครงการนำร่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ, การเงิน, สังคม เพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับการดำเนินการระหว่างหน่วยงานภาครัฐของไทยกับธนาคารโลกในอนาคตต่อไป" โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าว