ธนาคารโลกเผยยอดปล่อยกู้พุ่งสูงขึ้นถึง 54% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.88 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณซึ่งสิ้นสุดเดือนมิ.ย. หลังวิกฤตการเงินโลกกดดันให้ประเทศกำลังพัฒนาต้องหันมาขอความช่วยเหลือจากธนาคารโลก
"การขอความช่วยเหลือจากธนาคารโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้" โรเบิร์ต โซเอลลิก ประธานธนาคารโลก กล่าวในแถลงการณ์ "และเราคาดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นต่อไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังไม่แน่นอน"
ธนาคารโลกเปิดเผยว่า ทางธนาคารได้ให้การสนับสนุน 767 โครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่อสู้กับความยากไร้ และให้ความช่วยเหลือภาคเอกชน ซึ่งรวมถึงการให้เงินสนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานรวม 2.07 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยการให้ความช่วยเหลืออยู่ในรูปแบบของการให้ การให้ยืม การรับประกัน และการลงทุนในหุ้น เพื่อช่วยให้หลายประเทศและบริษัทเอกชนรับมือกับวิกฤตการเงินได้
โดยยอดความช่วยเหลือจากธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะฟื้นฟูและพัฒนา (IBRD) ซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารโลกที่ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน การบริหารความเสี่ยง และให้บริการการเงินกับประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า แตะ 3.29 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์
ในขณะเดียวกัน ยอดปล่อยกู้จากสมาคมเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (IDA) ซึ่งเป็นองค์กรของธนาคารโลกที่ให้ความช่วยเหลือ 79 ประเทศที่ยากไร้ที่สุดในโลก ก็ทะยาน 25% แตะ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณที่แล้ว
"เราต้องเร่งให้ความช่วยเหลือผู้คนหลายล้านคนที่กำลังลำบาก ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ และการสร้างความปลอดภัยในสังคม มิเช่นนั้นเราอาจต้องเผชิญกับปัญหาความยากไร้ที่รุนแรงกว่าเดิมในภายหลัง" นายโซเอลลิก กล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน