คณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้อนุมัติการออกพันธบัตรเป็นครั้งแรก โดยมีเป้าหมายที่จะหาแหล่งเงินทุนก้อนใหม่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย หลังจากที่ได้มีการหารือระหว่างกลุ่มเจ้าของกองทุนและสมาชิกมาเป็นเวลาหลายเดือน
แอนดรูว์ ทวีดี หัวหน้าฝ่ายการเงินของ IMF กล่าวว่า บอร์ดไอเอ็มเอฟได้ลงคะแนนเสียงวันนี้ และไม่ได้มีการจำกัดเพดานการขายแต่อย่างใด ซึ่งการออกพันธบัตรดังกล่าวเป็นความพยายมที่จะหาเงินทุนก้อนใหม่ 5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประเทศต่างๆ อาทิ ไอซ์แลนด์ไปจนถึงปากีสถานรับมือกับวิกฤตการเงินโลก
ทั้งนี้ การขายพันธบัตรเปรียบเสมือนการเปิดทางให้แก่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่รายใหญ่สุด ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับ IMF ในช่วงที่เงินทุนเป็นที่ต้องการ โดยจีน บราซิล และรัสเซีย ได้ให้ความสนใจกับการลงทุนในพันธบัตรแทนที่จะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเพียงอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันกับประเทศสมาชิกรายอื่นๆ
บลูมเบิร์กรายงานว่า จอห์น ลิปสกี้ ผู้ช่วยรองกรรมการผู้จัดการ IMF กล่าวว่า เราคาดว่า ประเทศต่างๆจะดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้ รวมถึงตลาดเกิดใหม่ โดยประทศพัฒนาแล้วบางแห่งอาจจะมองว่า การขายพันธบัตรเป็นวิธีการที่น่าสนใจสำหรับการเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดำเนินการของ IMF ในระดับสากล
แหล่งข่าว IMF กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริหารได้พิจารณาขายพันธบัตรวงเงิน 1.50 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขตั้งอยู่บนพื้นฐานของระดับความสนใจของประเทศสมาชิก แต่ต่อมาคณะกรรมการได้ตัดสินใจยกเลิกเพดานวงเงินดังกล่าว เนื่องจาก IMF ต้องการให้เกิดความยืดหยุ่นตามสถานการณ์และจังหวะ
รัฐบาลจีนเคยกล่าวไว้ว่า จะซื้อพันธบัตรมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนที่แล้ว รัสเซียและบราซิลก็ระบุว่า จะซื้อพันธบัตรจาก IMF ประเทศละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่อินเดียชี้ว่า จะเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการขายพันธบัตรของ IMF โดยทั้ง 4 ประเทศดังกล่าวเป็นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ หรือกลุ่ม BRIC